เอเจนซี - ทางการอิตาลียุติปฏิบัติการค้นหาศพผู้เสียชีวิตในส่วนที่จมน้ำของเรือ “กอสตา กอนกอร์เดีย” 2 สัปดาห์หลังจากเรือสำราญลำนี้เกยแนวหินปะการังจนอับปางใกล้ชายฝั่งเกาะจีกลิโอ ของดินแดนมะกะโรนี เจ้าหน้าที่เปิดเผยเมื่อวันอังคาร (31)
เจ้าหน้าที่พิทักษ์พลเรือนเปิดเผยว่าสภาพแวดล้อมอันยุ่งยากของซากเรือที่อับปางลำนี้ จึงแทบเป็นไปไม่ได้เลยที่จะดำเนินการค้นหาต่อไปได้อย่างปลอดภัยโดยเฉพาะในส่วนที่จมอยู่ใต้น้ำของเรือสำราญยาว 209 เมตรลำนี้
การตัดสินใจยุติปฏิบัติการค้นหามีขึ้นแม้ว่ายังมีผู้สูญหายตามที่ได้รับแจ้งจากครอบครัวผู้ประสบเหตุอีก 15 คน ขณะที่จนถึงตอนนี้เจ้าหน้าที่สามารถกู้ศพผู้เสียชีวิตขึ้นมาได้แล้ว 17 ศพนับตั้งแต่เรือสำราญกอสตา กอนกอร์เดีย ซึ่งบรรทุกผู้โดยสารและลูกเรือ 4,200 คนเกยตื้นและอัปปางห่างจากเกาะจีกลิโอราว 150 เมตรเมื่อวันที่ 13 มกราคมที่ผ่านมา
ซีอีโอของกอสตา ครุยส์ บริษัทเจ้าของเรือลำนี้ให้การต่อคณะกรรมาธิการวุมิสภาอิตาลีเมื่อวันอังคาร (31) ว่าระบบความปลอดภัยทุกระบบบนเรือยังใช้การได้ตามปกติในช่วงที่เกิดอุบัติเหตุ แต่มีความเป็นไปได้ว่าอาจมีการแจ้งเตือนอพยพล่าช้า
“เรารู้ว่าจะต้องมีการออกคำสั่งอย่างเป็นขั้นเป็นตอนก่อนการอพยพ เวลานั้นมีคำสั่งบางส่วนออกมา แต่เราไม่แน่ใจถึงระยะเวลาของมันหรือใครเป็นคนออกคำสั่ง” ปิแอร์ลุยจิ ฟอสชี ซีอีโอของกอสตา ครุยส์กล่าว “มีความเป็นไปได้ว่าความห่างของการออกคำสั่งแรกและคำสั่งถัดไปนั้นอาจนานเกินไป”
ฟรานเชสโก สเก็ตติโน กัปตันเรือถูกศาลสั่งกักบริเวณหลังถูกกล่าวโทษว่าเป็นต้นตอของอุบัติเหตุครั้งนี้ นอกจากนี้เขายังถูกกล่าวหาละทิ้งเรือก่อนปฏิบัติการอพยพเสร็จสิ้น
ผู้โดยสารคร่ำครวญว่าการอพยพเป็นไปอย่างโกลาหล บาส่วนต้องรอเรือชูชีพนานกว่า 2 ชั่วโมงกว่าจะสามารถออกจากเรือได้ ขณะที่ทีมประดาน้ำพบศพผู้เสียชีวิตจำนวนหนึ่งติดอยู่บริเวณจุดรวมพลสำหรับอพยพที่จมอยู่ใต้น้ำในสภาพที่สวมเสื้อชูชีพรอคอยความช่วยเหลือ
ทั้งนี้ แม้เจ้าหน้าที่ตัดสินใจยุติปฏิบัติการค้นหาในเรือตรงส่วนที่จมน้ำ แต่พวกเขาก็เตรียมเดินหน้าค้นหาร่างผู้สูญหายในส่วนอื่นๆ ที่ลอยอยู่เหนือผิวน้ำรวมถึงในรัศมี 18 ตารางเมตรรอบตัวเรือ หลังจากพบวัตถุจำนวนหนึ่งลอยขึ้นมาและเจ้าหน้าที่หวังว่าศพบางส่วนอาจลอยขึ้นสู่ผิวน้ำเช่นกัน