หน่วยงานอิตาลีไฟเขียวแผนสูบน้ำมันออกจากเรือสำราญมรณะ

เอเอฟพี - สำนักงานพิทักษ์พลเรือนของอิตาลีเมื่อวันจันทร์(23) ไฟเขียวเดินหน้าแผนสูบน้ำมัน 2,380 ตัน ออกจากเรือสำราญกอสตา กอนกอร์เดีย ที่เกยตื้นนอกชายฝั่งอิตาลี เพื่อหลีกเลี่ยงความเสียหายด้านสิ่งแวดล้อม ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่สามารถกู้ศพเหยื่อได้เพิ่มอีก 2 รายส่งผลให้ยอดรวมผู้เสียชีวิตอยู่ที่ 15 คนแล้ว

"เราให้อำนาจสำหรับเริ่มต้นปฏิบัติการสูบน้ำมัน" ฟรันโก กาเบรียลลี หัวหน้าวสำนักงานพิทักษ์พลเรือน ซึ่งรับผิดชอบดูแลปฏิบัติการต่างๆบนเกาะจีกลีโอบอกกับผู้สิ่อข่าว พร้อมระบุว่าในระหว่างนั้นปฏิบัติการกู้ภัยก็จะดำเนินการไปพร้อมๆกัน

ได้มีการว่าจ้าง "สมิธ" บริษัทกู้เรือของเนเธอร์แลนด์เข้ามารับผิดชอบการสูบน้ำมันออกจากเรือ ซึ่งเหล่านักอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมบอกว่ามีความสำคัญอย่างมากเพื่อหลีกเลี่ยงหายนะทางนิเวศวิทยาทางทะเลครั้งเลวร้ายที่สุดในยุโรป

เจ้าหน้าที่ชายฝั่งระบุว่าปฏิบัติการนี้น่าจะเริ่มขึ้นอย่างเร็วที่สุดในช่วงเช้าวันอังคาร(24) และคาดหมายว่าน่าจะใช้เวลาราวๆ 28 วันถึงจะสูบน้ำมันออกจากเรือสำราญจนหมด ขณะเดียวกันก็มีการเตรียมอาสาสมัครไว้ 130 คน สำหรับเข้าทำแทรกความสะอาดชายฝั่งในทันทีหากระหว่างนั้นเกิดมีปัญหาน้ำมันรั่วไหลออกมา

พนักงานของสมิธจะสูบน้ำมันไปยังเรือลำหนึ่งที่จอดเทียบอยู่ใกล้ๆพร้อมกับสูบน้ำไปยังเรือสำราญไปในเวลาเดียวกันเพื่อไม่ให้เรือสำราญกอสตา กอนกอร์เดียเสียสมดุล และมีมาตรการอื่นๆที่ป้องกันน้ำมันรั่วไหล ขณะที่ กาเบรียลลี ยอมรับว่าพบการปนเปื้อนแล้ว แต่ส่วนใหญ่มาจากสารเคมีต่างๆที่อยู่บนเรือและไม่ได้มาจากถังน้ำมัน

ทั้งนี้ทางสำนักงานพิทักษ์พลเรือนของอิตาลีระบุบนเว็บไซต์ว่าจากผลตรวจสอบตัวอย่างน้ำที่เก็บมาจากรอบๆซากเรือยังไม่พบสารไฮโดรคาร์บอนแต่อย่างใด

กาเบรียลลี บอกด้วยว่าเจ้าหน้าที่หน่วยฉุกเฉินกำลังพยายามเข้าเคลียร์ภายในซากหักพัง อย่างไรก็ตามการเน่าเปื่อยของผลิตภัณฑ์อาหาร เฟอร์นิเจอร์ที่ระเกะระกะและน้ำที่ขุ่นมัว เป็นอุปสรรคต่อการทำงานพอสมควร

ขณะเดียวกันนายกาเบรียลลี ซึ่งรับผิดชอบงานการกู้กัยด้วยเปิดเผยว่าเมื่อวันจันทร์(23) ทีมกู้ภัยสามารถกู้ซากผู้เสียชีวิตได้อีก 2 ศพ โดยเป็นสตรีทั้งสองคน ส่งผลให้ยอดรวมผู้เสียชีวิตจากโศกนาฏกรรมครั้งนี้เพิ่มเป็น 15 รายแล้ว