ฮาอาเรตซ์ - หน่วยข่าวกรองอินเดีย สามารถระบุตัวคนร้ายที่ก่อเหตุระเบิดโจมตีนักการทูตยิว ช่วงก่อนหน้าวันแห่งความรัก และยังมีหลักฐานสำคัญที่ชี้ว่า อิหร่านเป็นผู้อยู่เบื้องหลัง แต่ตัดสินใจที่จะไม่เปิดเผยต่อสาธารณชน เพื่อหลีกเลี่ยงความบาดหมางกับเตหะราน หนังสือพิมพ์ฮาอาเรตซ์รายงานอ้างแหล่งข่าวด้านความมั่นคงของอิสราเอล วานนี้ (26)
ทัล เยโฮชัว-โคเรน นักการทูตหญิงซึ่งเป็นภรรยาของทูตกลาโหมอิสราเอลประจำอินเดีย ได้รับบาดเจ็บสาหัสจากเหตุระเบิดเมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ ในกรุงนิวเดลี ขณะที่เธอกำลังนั่งอยู่ในรถยนต์ของสถานทูตอิสราเอล เพื่อเดินทางไปรับลูกที่โรงเรียน คนร้ายขับจักยานยนต์ลอบเข้าไปติดระเบิดแม่เหล็กบริเวณส่วนหลังของรถ แล้วหลบหนีไป
อินเดียใกล้จะไขคดีได้เต็มที แต่กลับไม่มีการเปิดเผยต่อสาธารณชน แม้กระทั่งในการติดต่อเป็นการลับกับสหรัฐฯ และอิสราเอล อินเดียก็ยังไม่ยอมเปิดเผยข้อมูลให้ทราบ เจ้าหน้าที่ระดับสูงของอิสราเอลที่ใกล้ชิดกับการสืบสวนชี้แจงกับหนังสือพิมพ์ฮาอาเรตซ์ ของอิสราเอล
แหล่งข่าวผู้นี้ กล่าวว่า ตำรวจอินเดียสามารถระบุจักรยานยนต์คันที่ใช้ก่อเหตุ ตัวผู้ซื้อจักรยานยนต์คันนี้ และวันเวลาที่กลุ่มคนร้ายเดินทางเข้าอินเดียได้แล้ว โดย ฮาอาเรตซ์ ชี้ว่า ข้อมูลนี้สอดคล้องกับรายงานของสำนักข่าวต่างๆ ในอินเดีย
“อินเดียได้รับความช่วยเหลือในการสืบสวนอย่างมากจากสหรัฐฯ และอิสราเอล และ อินเดียเองก็ทำงานคืบหน้าไปมากเช่นกัน” แหล่งข่าวระบุ “ทางการอินเดียรู้ดีว่า อิหร่านอยู่เบื้องหลัง มีการจับตัวผู้ต้องสงสัยได้หลายคน เจ้าหน้าที่อินเดียตั้งแต่ระดับล่างไปจนถึงระดับรัฐมนตรีมหาดไทยทุกคนต่างก็เห็นภาพที่ชัดเจน แต่กลับไม่มีการเปิดเผยเรื่องนี้ออกมา”
เจ้าหน้าที่อิสราเอลผู้นี้ ระบุว่า หน่วยความมั่นคงภารตะตัดสินใจบอกกับประชาชนเพียงว่า คดีอยู่ระหว่างการสืบสวน และกำลังตัดสินใจยื้อเวลาออกไปเรื่อยๆ “อินเดียเข้าใจว่า หากเปิดเผยข้อมูลที่มีออกมา ก็จะไม่มีทางเลือกอื่น นอกจากต้องขับทูตอิหร่านออกจากประเทศ ... ในสถานกาณ์เช่นนี้ อินเดียไม่ต้องการมีปัญหากับอิหร่าน”
นอกจากนี้ สื่อยิวฉบับนี้อ้างว่า อินเดียได้ส่งตัวเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนไปจอร์เจียและมาไทยแล้ว เพื่อเปรียบเทียบวัตถุระเบิดที่พบในจุดเกิดเหตุ
ฮาอาเรตซ์ ยังอ้างรายงานของสื่ออินเดียว่า มีบุคคลต้องสงสัยโทรศัพท์ข้ามประเทศไปยังอิหร่านและเลบานอน 13 ครั้ง ในชั่วโมงก่อนและหลังเกิดเหตุระเบิดในกรุงนิวเดลี ในจำนวนนี้ มี 4 ครั้ง เป็นการโทรศัพท์จากตู้สาธารณะบริเวณร้านอาหารที่ ทัล เยโฮชัว-โคเรน กับสามีกำลังใช้บริการ ไม่นานก่อนเกิดเหตุ
หลังผ่านเหตุระเบิดมาหลายวัน ท่าทีของสื่ออินเดียต่อการนำเสนอข่าวเริ่มเปลี่ยนไป รายงานกลับกลายเป็นว่า การสืบสวนยังไม่พบหลักฐานชี้นำ และข่าวดังกล่าวก็เริ่มหายไปจากหน้าหนังสือพิมพ์ ฮาอาเรตซ์รายงาน
ทั้งนี้ ฮาอาเรตซ์ ยังชี้ว่า อิสราเอลมีผลประโยชน์มากมายในอินเดียทั้งทางเศรษฐกิจและด้านกลาโหม โดยเฉพาะเมื่ออิสราเอลได้ขายอาวุธล้ำสมัยให้กองทัพอินเดีย และระหว่างการเยือนอิสราเอลเมื่อเดือนที่แล้วของ โซมานาฮาลี มัลไลอาห์ กฤษณะ รัฐมนตรีต่างประเทศอินเดีย ก็ยังมีลงนามในข้อตกลงเขตการค้าเสรีระหว่างกัน
