เอเอฟพี - พนักงานขับรถไฟอาร์เจนตินา ที่ประสบอุบัติเหตุคร่าชีวิตผู้โดยสาร 51 คน เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว กล่าวโทษระบบห้ามล้อที่ขัดข้องของรถไฟขบวนดังกล่าว และเขาได้แจ้งเรื่องกับนายสถานีรายทางให้ทราบถึงปัญหาที่เกิดขึ้นแล้ว แต่ก็ยังได้รับคำสั่งให้เดินหน้าต่อไป แหล่งข่าวจากศาลอาร์เจนตินาเปิดเผยวานนี้ (25)
มาร์กอส กอร์โดบา พนักงานขับรถไฟวัย 28 ปี ถูกตั้งข้อหาทำให้เสียทรัพย์ โดยปราศจากเจตนาทำร้ายร่างกาย และได้รับการปล่อยตัวแล้ว หลังเข้ารับการรักษาอาการบาดเจ็บที่โรงพยาบาล
กอร์โดบา ให้การกับตำรวจฝ่ายสืบสวนว่า เขาได้แจ้งปัญหาระบบห้ามล้อแก่นายสถานีต่างๆ แต่ก็ยังมีคำสั่งกลับมาให้เดินรถไฟต่อไป กระทั่งเกิดอุบัติเหตุระหว่างเข้าเทียบชานชาลาเมื่อวันพุธที่ผ่านมา (22) นับเป็นอุบัติเหตุทางรถไฟครั้งเลวร้ายที่สุดอันดับ 3 ในประวัติศาสตร์อาร์เจนตินา
รถไฟสายซาร์มิเอนโตขบวนนี้บรรทุกผู้โดยสารราว 2,000 คน พุ่งเข้าชนกำแพงกันของสถานีปลายทางที่ 11 ในกรุงบัวโนสไอเรส มีผู้เสียชีวิต 51 คน และบาดเจ็บ 703 คน
มาร์กอส กอร์โดบา ก็บาดเจ็บเช่นกัน หน่วยดับเพลิงต้องตัดเหล็กบริเวณห้องควบคุมหัวรถจักร เพื่อนำตัวเข้าออกมา กอร์โดบามีบาดแผลบนใบหน้าและตามลำตัว อย่างไรก็ตาม อาการของเขาไม่อันตรายถึงชีวิต
กอร์โดบา ให้การว่า “ทุกสถานีที่ผ่านมา เขาแจ้งกับนายสถานีทางวิทยุว่าระบบเบรกของรถไฟมีปัญหา” แหล่งข่าวเปิดเผย แต่เขาก็ได้รับคำสั่งให้นำรถไฟออกต่อไป แม้ระบบห้ามล้อขัดข้องก็ตาม
ในคำให้การของกอร์โดบาระบุว่า “เมื่อระบบเบรกทำงาน ต้องมีเสียงวาล์วดังทุกครั้ง แต่เขาไม่ได้ยินเสียงอะไรเลย” จึงรู้ว่าระบบห้ามล้อมีปัญหาแน่ แหล่งข่าวเปิดเผย
หลังอุบัติเหตุในวันพุธ ฆวน ปาโบล เชียวี รัฐมนตรีคมนาคมอาร์เจนตินา มีคำสั่งในทันทีให้ตรวสอบบันทึกเสียงสนทนาระหว่างมาร์กอส กอร์โดบา กับนายสถานีต่างๆ
ผลการตรวจเลือดชี้ว่า กอร์โดบา ไม่ได้ดื่มแอลกอฮอล์หรือใช้ยาเสพติดระหว่างปฏิบัติหน้าที่
กอร์โดบาได้รับการปล่อยตัว เนื่องจากเจ้าหน้าที่เห็นว่า ไม่มีความเสี่ยงที่เขาจะหนีคดีหรือขัดขวางการสืบสวน
ความเลวร้ายจากอุบัติเหตุครั้งนี้ติดอยู่ในอันดับ 3 ของหายนะทางรถไฟอาร์เจนตินา โดยความเสียหายครั้งเลวร้ายที่สุดเกิดขึ้นเมื่อปี 1970 ที่เมืองเบนาบีเดส กรุงบัวโนสไอเรส ซึ่งมีผู้โดยสารเสียชีวิต 236 คน และเมื่อปี 1978 ที่จังหวัดซานตา เฟ มีผู้เสียชีวิต 55 คน