xs
xsm
sm
md
lg

“โบอิ้ง” ชี้สายการบินทั่วโลกต้องการเครื่องบินเพิ่ม 33,500 ลำ ภายในปี 2030

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

โบอิ้ง 787 ดรีมไลเนอร์ จอดอยู่บริเวณสถานที่จัดงานแสดงการบินนานาชาติสิงคโปร์ ซึ่งจะมีขึ้นระหว่างวันที่ 14-19 กุมภาพันธ์นี้
เอเอฟพี - สายการบินทั่วโลกจะต้องการเครื่องบินใหม่อีก 33,500 ลำ ภายในปี 2030 ซึ่งนับเป็นมูลค่ารวม 4 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ โดยร้อยละ 35 จะถูกนำไปใช้งานในสายการบินของเอเชีย ผู้ผลิตอากาศยานชั้นนำของโลก โบอิ้ง แถลงวันนี้ (13)

สายการบินแถบเอเชีย-แปซิฟิก จะต้องการเครื่องบินใหม่อีกราว 11,450 ลำ มูลค่ารวม 1.5 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ภายในช่วงเวลาดังกล่าว แรนดี ทินเซธ รองประธานฝ่ายอากาศยานเชิงพาณิชย์ของโบอิ้ง กล่าวในงานแถลงข่าวก่อนเริ่มงานแสดงการบินนานาชาติ ที่สิงคโปร์

“นี่ (เอเชีย-แปซิฟิก) เป็นตลาดการบินขนาดใหญ่ที่สุดในโลก สำหรับเครื่องบินห้องโดยสารชั้นเดียว ห้องโดยสาร 2 ชั้น และเครื่องบินโดยสารขนาดใหญ่ ไม่ว่ามองด้านไหนก็เป็นตลาดที่ใหญ่จริงๆ และยังเติบโตได้อีก” ทินเซธ เผย

รองประธานโบอิ้ง เผยด้วยว่า อุปสงค์สูงสุดจะอยู่ที่เครื่องบินห้องโดยสารชั้นเดียว ซึ่งจุผู้โดยสารได้ราว 90-200 คน และเป็นรุ่นที่สายการบินต้นทุนต่ำนิยมใช้มากที่สุด

จากจำนวน 33,500 ลำที่คาดไว้ ร้อยละ 60 จะถูกจัดซื้อเพื่อเพิ่มฝูงบิน ส่วนที่เหลือคือการซื้อเครื่องใหม่เพื่อทดแทนเครื่องรุ่นเก่าซึ่งหมดอายุการใช้งาน

สำหรับภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก ความต้องการเครื่องบินใหม่ร้อยละ 80 จะเป็นไปเพื่อเพิ่มขนาดฝูงบิน

เพื่อตอบสนองอุปสงค์เหล่านี้ โบอิ้งจะเพิ่มกำลังผลิตเครื่องบินอีกหลายรุ่น รวมไปถึงรุ่น 737 แม็กซ์ ซึ่งเป็นเครื่องบินห้องโดยสารชั้นเดียวรุ่นใหม่ ที่จะผ่านการทดสอบในอุโมงค์ลมขั้นสุดท้ายสัปดาห์หน้า ทินเซธ ระบุ

โบอิ้ง ยังมีแผนผลิตเครื่องรุ่น 787 ดรีมไลเนอร์ ที่มีขนาดใหญ่ขึ้น โดยใช้ชื่อว่า 787-10 เอ็กซ์ ซึ่งจะสามารถจุผู้โดยสารได้ 320 คน หรือมากกว่ารุ่น 787-9 ถึง 40 คน

มาร์ก เจนก์ส รองประธานฝ่ายพัฒนาโบอิ้ง 787 กล่าววานนี้ (12) ว่า โบอิ้ง จะขยายกำลังการผลิต ดรีมไลเนอร์ ซึ่งล่าช้ามานาน ให้ได้ถึง 10 ลำต่อเดือนภายในปี 2013 จากปัจจุบันที่ผลิตได้เพียง 2-3 ลำต่อเดือน

โบอิ้ง และ แอร์บัส เป็นผู้ผลิตอากาศรายใหญ่ของโลกที่เข้าร่วมงานแสดงการบินนานาชาติที่สิงคโปร์ ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 14-19 กุมภาพันธ์นี้
กำลังโหลดความคิดเห็น