เอเอฟพี - ประธานาธิบดี คริสตินา เคิร์ชเนอร์ แห่งอาร์เจนตินา ประณามอังกฤษใช้กำลังทหารเข้าควบคุมหมู่เกาะฟอล์กแลนด์ ซึ่งเป็นดินแดนพิพาทระหว่าง 2 ประเทศ พร้อมระบุจะร้องเรียนอย่างเป็นทางการไปยังองค์การสหประชาชาติ วานนี้ (7)
“เราจะร้องเรียนไปยังคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ และสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ เพราะการเคลื่อนพลครั้งนี้ถือเป็นภัยร้ายแรงต่อความมั่นคงของนานาชาติ” เคิร์ชเนอร์ แถลงต่อนักการเมือง และอดีตทหารที่เคยผ่านสงครามหมู่เกาะฟอล์กแลนด์กับอังกฤษเมื่อ 30 ปีก่อน
อังกฤษและอาร์เจนตินาเริ่มปะทะฝีปากซึ่งกันและกันก่อนถึงวันครบรอบ 30 ปีแห่งสงครามฟอล์กแลนด์ ซึ่งอุบัติขึ้นเมื่อวันที่ 2 เมษายน ปี 1982 หลังรัฐบาลทหารอาร์เจนตินาส่งกองกำลังบุกหมู่เกาะฟอล์กแลนด์ ซึ่งอังกฤษยึดครองมาตั้งแต่ปี 1833
ไม่กี่สัปดาห์มานี้ เจ้าหน้าที่อาร์เจนตินาเริ่มแสดงอาการฉุนเฉียว หลังอังกฤษส่งเรือรบเข้าไปประจำการแถบหมู่เกาะพิพาท อีกทั้ง เจ้าชายวิลเลียม องค์รัชทายาทลำดับที่ 2 ก็ยังเสด็จฯไปปฏิบัติภารกิจนักบินเฮลิคอปเตอร์ที่นั่นด้วย
กรุงบัวโนสไอเรสยังแสดงปฏิกิริยาตอบโต้รุนแรง เมื่อมีรายงานข่าวลงหนังสือพิมพ์ เดลิเมล์ ว่า อังกฤษส่งเรือดำน้ำนิวเคลียร์เข้าไปในภูมิภาคละตินอเมริกา แม้จะยังไม่มีคำยืนยันจากเจ้าหน้าที่อังกฤษก็ตาม
“อังกฤษเริ่มแผ่แสนยานุภาพทางทหารเข้ามาทางตอนใต้ของมหาสมุทรแอตแลนติกอีกครั้ง” เคิร์ชเนอร์ แถลงต่อผู้ฟัง ซึ่งมีทั้งนักการทูตและผู้นำฝ่ายค้าน
“เราไม่อาจตีความเป็นอื่นไปได้ เมื่อมีการส่งเรือพิฆาตที่ติดตั้งเทคโนโลยีล้ำสมัยเข้ามา รวมถึงองค์รัชทายาท ซึ่งเราหวังว่าจะเห็นพระองค์ในชุดพลเรือนมากกว่า”
ประธานาธิบดีหญิงแห่งอาร์เจนตินา กล่าวด้วยว่า ข้อพิพาทหมู่เกาะฟอล์กแลนด์ไม่ใช่ปัญหาสำหรับชาวอาร์เจนตินาเท่านั้น แต่ยังเป็นปัญหาสำหรับละตินอเมริกาทั้งหมด รวมถึงประชาคมโลกด้วย
ผู้ประท้วงหลายร้อยคนเดินทางมาชุมนุมใกล้ทำเนียบ คาซา โรซาดา ขณะที่ เคิร์ชเนอร์ กล่าวปราศรัย โดยต่างชูธงชาติอาร์เจนตินา และร้องตะโกนอ้างความเป็นเจ้าของ “หมู่เกาะมัลวินัส” ซึ่งเป็นชื่อที่ชาวอาร์เจนตินาใช้เรียกขานหมู่เกาะฟอล์กแลนด์
ด้านโฆษกกระทรวงการต่างประเทศอังกฤษ ให้สัมภาษณ์ว่า “พลเมืองหมู่เกาะฟอล์กแลนด์เลือกที่จะถือสัญชาติอังกฤษ พวกเขามีอิสระที่จะกำหนดอนาคตของตนเอง และจะไม่มีการเจรจาใดๆกับอาร์เจนตินาเกี่ยวกับอำนาจอธิปไตยเหนือหมู่เกาะ เว้นแต่เป็นความต้องการของพลเมืองที่นั่น”
อาร์เจนตินาได้รับความร่วมมือจากเพื่อนบ้านอย่าง บราซิล, อุรุกวัย และ ชิลี ซึ่งไม่อนุญาตให้เรือที่ติดธงหมู่เกาะฟอล์กแลนด์แล่นเข้าเทียบท่า อันเป็นการเสียมารยาทการทูตที่สร้างความไม่พอใจอย่างยิ่งแก่ลอนดอน
ลีออล แกรนต์ ผู้แทนถาวรอังกฤษประจำองค์การสหประชาชาติ ชี้ว่า อาร์เจนตินา “แสดงออกชัดเจนว่าต้องการกีดกั้นการค้า และใช้มาตรการโดดเดี่ยวทางเศรษฐกิจมาข่มขู่พลเมืองหมู่เกาะฟอล์กแลนด์”
สัปดาห์ที่แล้ว เจ้าชายวิลเลียมแห่งอังกฤษ เสด็จฯถึงฐานทัพอากาศหมู่เกาะฟอล์กแลนด์ เพื่อทรงปฏิบัติภารกิจนักบินเฮลิคอปเตอร์ ซี คิง เป็นเวลา 6 สัปดาห์ ซึ่งแม้รัฐบาลอังกฤษจะชี้แจงว่า เป็นการปฏิบัติภารกิจทางทหารตามปกติ แต่อาร์เจนตินากลับมองว่ามีเจตนายั่วยุ