เอเอฟพี - ผลการตรวจร่างกายครั้งล่าสุดพบว่า ประธานาธิบดี คริสตินา เคิร์ชเนอร์ แห่งอาร์เจนตินา ไม่ได้ป่วยเป็นมะเร็งแต่อย่างใด โฆษกเผยวานนี้ (7) ซึ่งนับเป็นการกลับผลวินิจฉัยชนิดหน้ามือเป็นหลังมือ ทั้งที่แพทย์ก็ได้ผ่าตัดต่อมไทรอยด์ของผู้นำหญิงออกไปเรียบร้อยแล้ว
จากการตรวจสอบก้อนเนื้อต่อมไทรอยด์ซึ่งใช้เวลาผ่าตัดนานถึง 3 ชั่วโมงครึ่ง พบว่า “ไม่มีเซลล์มะเร็ง ซึ่งถือเป็นการเปลี่ยนแปลงผลวินิจฉัยก่อนหน้านี้” อัลเฟรโด สคอชชิมาร์โร โฆษกประจำตัว เคิร์ชเนอร์ กล่าว
เคิร์ชเนอร์ วัย 58 ปี เดินทางออกจากโรงพยาบาลเอกชนออสตรัลในเมืองพิลาร์ ซึ่งห่างจากกรุงบัวโนสไอเรสไปทางเหนือประมาณ 50 กิโลเมตร เพื่อกลับไปพักฟื้นที่บ้านพักของเธอในย่านโอลิวอส
แพทย์ซึ่งทำการตรวจเนื้อเยื่อของเคิร์ชเนอร์ เมื่อเดือนธันวาคมปีที่แล้ว สรุปว่าเธอป่วยเป็นมะเร็งต่อมไทรอยด์ ซึ่งประธานาธิบดีหญิงก็ได้ทำการผ่าตัดต่อมไทรอยด์ออก เมื่อวันพุธที่ผ่านมา (4)
อย่างไรก็ดี ผลการตรวจเนื้อเยื่อด้วยกล้องจุลทรรศน์ในภายหลังกลับพบว่า แม้จะมีตุ่มเกิดขึ้นบริเวณต่อมไทรอยด์ทั้ง 2 ซีก ทว่าไม่มีเซลล์มะเร็งอยู่เลย
ด้วยเหตุนี้ คณะแพทย์จึง “พิจารณาเห็นว่าการผ่าตัดที่แล้วมานับว่าเพียงพอ และไม่จำเป็นต้องรักษาด้วยกัมมันตรังสีไอโอดีนอีก” สคอชชิมาร์โรระบุ
ผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์ชี้ว่า การเปลี่ยนคำวินิจฉัยโรคอย่างกะทันหันเช่นนี้ไม่ใช่เรื่องผิดปกติ
“ในกรณีของมะเร็งชนิดนี้ นั่นเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้... ผลการวินิจฉัยเบื้องต้นเกิดจากการพบตุ่มเนื้อ (papillary cell) แพทย์ผ่าตัดซึ่งเป็นแพทย์เฉพาะทางที่มีชื่อเสียงมาก จึงตัดสินใจที่จะผ่าออก” เออร์เนสโต ไอบาร์รา ปวนเต ผู้เชี่ยวชาญด้านมะเร็งต่อมไทรอยด์ ให้สัมภาษณ์
“แม้การตรวจเนื้อเยื่อครั้งที่ 2 จะไม่พบอะไร แต่การผ่าตัดก็คงเป็นสิ่งจำเป็น เพราะอาจมีเยื่อบุมะเร็ง (micro carcinomas) ซ่อนอยู่ และคนเราก็ทำการตรวจเนื้อเยื่อไม่ได้บ่อยๆ หรอก”
มะเร็งต่อมไทรอยด์ชนิด Papillary เป็นชนิดที่พบบ่อยที่สุด และมีความไวต่อการรักษามากที่สุด
หลังข่าวการเป็นมะเร็งของเคิร์ชเนอร์ถูกประกาศออกไปเมื่อวันที่ 27 ธันวาคมที่ผ่านมา ก็เรียกคะแนนสงสารให้แก่ประธานาธิบดีหญิงผู้นี้ ซึ่งถูกเลือกมาเป็นสมัยที่ 2 ด้วยคะแนนเสียงถึงร้อยละ 54
ปีที่แล้ว เคิร์ชเนอร์ต้องยุติภารกิจอย่างกะทันหันถึง 3 ครั้ง เนื่องจากความดันโลหิตต่ำ
เคิร์ชเนอร์อยู่ระหว่างลาพักจนถึงวันที่ 24 มกราคม ซึ่งในระหว่างนี้ผู้ที่จะปฏิบัติหน้าที่แทนประธานาธิบดีก็คือ รองประธานาธิบดี อามาโด บูดู ซึ่งเป็นอดีตรัฐมนตรีกระทรวงการคลังอาร์เจนตินา