เอเอฟพี - ราคาน้ำมันขยับขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 6 เดือนวานนี้ (7) หลังประธานเฟดแสดงความเชื่อมั่นต่อเศรษฐกิจสหภาพยุโรป และความกังวลต่อเหตุไม่สงบในไนจีเรีย หนึ่งในชาติผู้ส่งออกเชื้อเพลิง ขณะที่วอลล์สตรีทปิดบวกในกรอบแคบ จากข่าวลือว่ากรีซใกล้บรรลุข้อตกลงลดหนี้กับเจ้าหนี้เอกชนแล้ว
สัญญาล่วงหน้าน้ำมันดิบชนิดไลต์สวีตครูดของสหรัฐฯ งวดส่งมอบเดือนมีนาคม เพิ่มขึ้น 1.50 ดอลลาร์ ปิดที่ 98.41 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกัน เพิ่มขึ้น 30 เซ็นต์ ปิดที่ 116.23 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หลังจากช่วงหนึ่งของการซื้อขายพุ่งขึ้นไปถึง 117 ดอลลาร์ แตะระดับสูงสุดในรอบ 6 เดือน
นักวิเคราะห์ชี้ว่า ความเคลื่อนไหวในทางบวกของราคาน้ำมันมาจากความเห็นของ เบน เบอร์นันกี ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ ที่ให้ปากคำต่อสภาคองเกรสเมื่อวันอังคาร (7) ว่าในสหภาพยุโรปมีเพียงแค่ประเทศที่อ่อนแอเท่านั้นที่ดิ่งสู่ภาวะถดถอย ให้ความหวังว่าภูมิภาคแห่งนี้จะเอาตัวรอดจากปัญหาทางเศรษฐกิจได้
ขณะเดียวกัน นักวิเคราะห์ก็ให้ความเห็นว่า เหตุกบฏไนจีเรียขู่โจมตีแหล่งที่ตั้่งทางน้ำมันของประเทศ ชาติผู้ผลิตเชื้อเพลิงรายใหญ่ที่สุดในแอฟริกา ได้ก่อความวิตกต่อปัญหาทางอุปทานและผลักให้ราคาน้ำมันพุ่งสูงขึ้นเช่นกัน
ด้าน ตลาดหุ้นสหรัฐฯ วานนี้ (7) ปิดในแดนบวกเล็กน้อยท่ามกลางการซ์้อขายที่เงียบเหงา หลังมีข่าวว่ากรีซใกล้บรรลุข้อตกลงกับเจ้าหนี้เอกชนในการเจรจาขอลดหนี้เพื่อหลีกเลี่ยงภาวะผิดนัดชำระหนี้แล้ว
ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 35.72 จุด (0.28 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 12,880.85 แนสแดค เพิ่มขึ้น 2.18 จุด (0.08 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 2,904.17 เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 2.85 จุด (0.21 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 1,347.18
