เอเอฟพี - กลุ่มสังเกตการณ์ด้านสิทธิมนุษย์เผย กองกำลังของซีเรียเข่นฆ่าประชาชนเสียชีวิตไปไม่ต่ำกว่า 217 ราย ซึ่งมีทั้งผู้หญิงและเด็ก ในการ “สังหารหมู่” ที่เมืองฮอมส์ ทางตอนกลางของประเทศ เมื่อเย็นวันศุกร์ (3) ตามเวลาท้องถิ่น ก่อนหน้าที่ยูเอ็นจะลงมติประณามการใช้ความรุนแรงปราบปรามเหตุจลาจลของรัฐบาลซีเรีย
กลุ่มสังเกตการณ์ด้านสิทธิมนุษยชนของซีเรียกล่าวว่า มีผู้เสียชีวิต 138 คนจากการยิงปืนครกโจมตีในเขตอัล-คอลิดิยา ของเมืองฮอมส์ ซึ่งกลายเป็นที่มั่นในการก่อเหตุจลาจลเพื่อโค่นรัฐบาลของประธานาธิบดีบาชาร์ อัล อัสซาดแห่งซีเรีย
นอกจากนี้ ยังมีผู้ถูกสังหารในส่วนอื่นๆ ของเมืองดังกล่าวอีก 79 ราย ขณะที่เหตุการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้นตามในจุดอื่นๆ รวมถึงกรุงดามัสกัส ระหว่างวัน ทำให้ยอดผู้เสียชีวิตโดยรวมในวันศุกร์นั้นอยู่ที่ประมาณ 250 คน และคาดว่าจะสูงขึ้นอีก กลุ่มสังเกตการณ์ระบุ
หากยอดผู้เสียชีวิตดังกล่าวได้รับการยืนยันจากทางการแล้ว จะทำให้เหตุการณ์ความรุนแรงครั้งนี้ถือว่านองเลือดที่สุด ในรอบเกือบ 11 เดือนของการลุกฮือขับไล่อัสซาดเลยทีเดียว
"นี่เป็นการสังหารหมู่อย่างแท้จริง" รามี อับเดล เราะห์มาน ผู้อำนวยการกลุ่มสิทธิมนุษย์แห่งนี้กล่าว พร้อมกับเรียกร้องให้สันนิบาตอาหรับเข้าแทรกแซงในทันที เพื่อยุติการเข่นฆ่าประชาชนเช่นนี้
ชาวบ้านเล่าว่า กองกำลังของรัฐบาลซีเรียเริ่มถล่มยิงย่านอัล-กอลิดิยา เมื่อเวลาประมาณ 20.00 น.วานนี้ ตามเวลาท้องถิ่น หรือราว 01.00 น.วันนี้ (4) ตามเวลาของไทย โดยใช้ทั้งปืนใหญ่ และปืนครก ทำให้บ้านอย่างน้อย 36 หลังพังราบคาบ พร้อมกับหลายครอบครัวที่อาศัยอยู่ในบ้านเรือนเหล่านั้น
ยิ่งไปกว่านั้น นักเคลื่อนไหวรายหนึ่งเผยว่า ชาวบ้านต้องใช้เครื่องมือเท่าที่มีอยู่ในการช่วยเหลือผู้คน ที่เกรงว่ายังติดอยู่ใต้ซากปรักหักพังอีกเป็นจำนวนมาก โดยมีสถานพยาบาลภาคสนามรักษาผู้บาดเจ็บเพียง 2 แห่ง ซึ่งแต่ละแห่งรองรับได้เพียง 30 คนเท่านั้น ไม่มีรถพยาบาล และความช่วยเหลืออื่นใด ขณะที่คาดว่ายอดผู้ได้รับบาดเจ็บอาจมากถึง 500 คน
อย่างไรก็ตาม ยังไม่ชัดเจนว่าอะไรทำให้กองกำลังของซีเรียระดมยิงถล่มประชาชนอย่างหนักเช่นนี้ ในเวลาเดียวกับที่คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชนกำลังหารือกันเพื่อหามติเกี่ยวกับแผนการของสันนิบาตอาหรับ ในการเรียกร้องให้ประธานาธิบดีอัสซาดลงจากอำนาจ