xs
xsm
sm
md
lg

25ชาติอียูรับข้อตกลงวินัยคลังแผนกระตุ้น-ลดหนี้กรีซยังไม่คืบ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

อังเกลา แมร์เคิล นายกรัฐมนตรีหญิงเหล็กของเยอรมนี
เอเจนซี - อังเกลา แมร์เคิล นายกรัฐมนตรีหญิงเหล็กของเยอรมนี ยังคงรักษาฐานอำนาจทางการเมืองในยุโรปไว้ได้อย่างเหนียวแน่น หลังสมาชิกอียู 25 จาก 27 ชาติเห็นพ้องตามข้อตกลงที่เมืองเบียร์ผลักดัน ในการเพิ่มความเข้มงวดด้านวินัยงบประมาณ ถึงแม้ประดามาตรการรัดเข็มขัดซึ่งใช้กันมาระยะหนึ่งแล้ว ยังไม่สามารถจุดประกายให้เศรษฐกิจของทวีปนี้กลับเติบโตขึ้นมาได้ก็ตาม

จากการประชุมสุดยอดผู้นำสหภาพยุโรป (อียู) ที่กรุงบรัสเซลส์เมื่อวันจันทร์ (30) มีเพียงอังกฤษและสาธารณรัฐเช็กเท่านั้น ที่ไม่ลงนามในข้อตกลงทางการคลังฉบับใหม่ ซึ่งจะบังคับให้มีการลงโทษกึ่งอัตโนมัติต่อประเทศสมาชิกที่ละเมิดขีดจำกัดการขาดดุลที่อียูกำหนดไว้ รวมทั้งจะบรรจุกฎงบประมาณสมดุลนี้ให้เป็นกฎหมายของแต่ละประเทศ

ข้อตกลงนี้ได้รับการต้อนรับอย่างดียิ่งจากธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ที่พยายามกดดันมานานแล้วให้ประเทศในยูโรโซนรักษากฎระเบียบงบประมาณรายจ่าย

มาริโอ ดรากี ประธานอีซีบี แสดงความเห็นว่า นี่เป็นขั้นตอนแรกสู่สหภาพการคลังซึ่งจะช่วยเสริมสร้างความเชื่อมั่นในยูโรโซน

ตามวาระนั้น ในช่วงครึ่งวันแรกของการประชุมซัมมิตคราวนี้ กำหนดให้เป็นการหารือกลยุทธ์ฟื้นการเติบโตและสร้างงาน ในขณะที่รัฐบาลทั่วยุโรปจำเป็นต้องตัดการใช้จ่ายและขึ้นภาษีเพื่อแก้ไขปัญหาหนี้ก้อนใหญ่ของประเทศ

อย่างไรก็ดี ที่ประชุมมีความเห็นไม่ลงรอยในเรื่องขีดจำกัดของมาตรการรัดเข็มขัด แถมการเจรจาปรับโครงสร้างหนี้กรีซระหว่างรัฐบาลเอเธนส์และพวกเจ้าหน้าภาคเอกชนก็ยังไม่ได้ข้อสรุป

แมร์เคิล กล่าวในระหว่างแถลงข่าวหลังการประชุมว่า ข้อตกลงด้านการคลังและกองทุนฟื้นฟูถาวรสำหรับยูโรโซนแม้จะยังคืบหน้าไม่มากนัก แต่อยู่บนเส้นทางในการรื้อฟื้นความเชื่อมั่น

ด้านประธานาธิบดีนิโคลาส์ ซาร์โกซี ของฝรั่งเศส คาดว่า ข้อตกลงลดหนี้กรีซจะลุล่วงภายในไม่กี่วันนี้ และยังแสดงความเชื่อมั่นในสถาบันของยุโรป ซึ่งมีนัยถึงอีซีบีโดยตรง ว่าจะช่วยอุดช่องว่างในการอัดฉีดเงินทุน

ขณะที่นายกรัฐมนตรีกรีซ ลูคัส ปาปาเดมอส หวังว่าจะบรรลุข้อตกลงกับเจ้าหนี้เอกชนในการปรับโครงสร้างหนี้มูลค่า 200,000 ล้านดอลลาร์ รวมทั้งเงื่อนไขในการรับเงินช่วยเหลือรอบสองจากสถาบันการเงินระหว่างประเทศภายในปลายสัปดาห์นี้

ทั้งนี้ หากปราศจากข้อตกลงปรับโครงสร้างหนี้ ผู้นำอียูจะไม่สามารถเดินหน้าแผนการอัดฉีดเอเธนส์รอบสองมูลค่า 130,000 ล้านยูโรตามที่ตกลงกันไว้ในการประชุมสุดยอดปลายเดือนตุลาคมปีที่แล้ว ซึ่งหากเป็นเช่นนั้นจะทำให้กรีซผิดนัดชำระหนี้ก้อนใหญ่ในเดือนมีนาคมนี้

นอกจากนั้น ผู้นำอียูยังเห็นพ้องกันว่า กลไกรักษาเสถียรภาพยุโรป (อีเอสเอ็ม) มูลค่า 500,000 ล้านยูโร จะเริ่มต้นดำเนินการในเดือนกรกฎาคม เร็วกว่าแผนการเดิม 1 ปี เพื่อให้การสนับสนุนประเทศที่มีปัญหาหนี้

ปัจจุบัน ยุโรปกำลังถูกกดดันอย่างหนักจากสหรัฐฯ จีน กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) รวมทั้งสมาชิกบางชาติในกลุ่ม ให้เพิ่มขนาดบอกกลไกป้องกันทางการเงินเช่นนี้ ทว่า แมร์เคิลปฏิเสธที่จะพิจารณาประเด็นนี้ก่อนถึงเดือนมีนาคม

อีเอสเอ็มนั้นมีเป้าหมายเข้าแทนที่กองทุนรักษาเสถียรภาพการเงินยุโรป (อีเอฟเอสเอฟ) ซึ่งเป็นกองทุนชั่วคราวที่ได้ใช้อุ้มไอร์แลนด์และโปรตุเกส ทว่า มีความกดดันให้รวมทรัพยากรของทั้งสองกองทุนนี้เพื่อสร้างกลไกทางการเงินที่มีมูลค่าถึง 750,000 ล้านยูโร (1 ล้านล้านดอลลาร์)

นอกจากนี้ นักเศรษฐศาสตร์จำนวนมากยังสงสัยในประสิทธิภาพของการจำกัดการขาดดุลอย่างเข้มงวดมาก ขณะที่นักการทูตอียูระบุว่า ข้อตกลงทางการคลังมีนัยทางการเมืองมากที่สุด ทั้งนี้เพื่อปลอบโยนผู้มีสิทธิ์ออกเสียงชาวเมืองเบีย ร์ที่ไม่พอใจการเข้าช่วยเหลือชาติยูโรโซนบ่อยครั้งเพื่อฟื้นความเชื่อมั่นของตลาด

“การร่างกฎหมายโดยอิงกับมุมมองของเยอรมนีเพื่อกะเกณฑ์วิธีการบริหารเศรษฐกิจของประเทศอื่น แถมยังทำให้แนวคิดเศรษฐศาสตร์แบบเคนส์ (Keynesianism) เป็นสิ่งผิดกฎหมายนั้น เป็นสิ่งที่เราจะไม่ทำเด็ดขาด" เจ้าหน้าที่อังกฤษกล่าว

อย่างไรก็ดี ไม่มีการเผชิญหน้าเหมือนที่เคยเกิดขึ้นเมื่อเดือนที่แล้วระหว่างนายกรัฐมนตรีอังกฤษ เดวิด คาเมรอน กับซาร์โคซี ตอนที่ผู้นำเมืองผู้ดีใช้สิทะวีโต้การแก้ไขสนธิสัญญาอียูเพื่อควบคุมวินัยงบประมาณยูโรโซนเคร่งครัดขึ้น

แมร์เคิลสำทับว่า แม้ไม่มีสัญญาณว่า คาเมรอนจะเลิกคัดค้านการแก้ไขสนธิสัญญา แต่เธอเชื่อว่า ข้อตกลงใหม่จะผ่านเป็นกฎหมายของอียูได้อย่างง่ายดายภายในไม่เกิน 5 ปี
กำลังโหลดความคิดเห็น