เอเอฟพี - คณะนักวิจัยญี่ปุ่นเตือนว่ามีโอกาสถึง 70 เปอร์เซ็นต์ที่จะเกิดแผ่นดินไหวขนาด 7.0 ถล่มกรุงโตเกียว ภายใน 4 ปีข้างหน้า ซึ่งเป็นอัตราเสี่ยงที่สูงยิ่งกว่าการทำนายครั้งก่อนๆ รายงานเผยวันนี้ (23)
คณะนักวิจัยจากสถาบันวิจัยแผ่นดินไหว มหาวิทยาลัยโตเกียว สรุปตัวเลขดังกล่าวจากสถิติแผ่นดินไหวรอบกรุงโตเกียวที่เกิดบ่อยครั้งขึ้น นับตั้งแต่เหตุภัยพิบัติสึนามิเมื่อวันที่ 11 มีนาคม ปี 2011 เป็นต้นมา หนังสือพิมพ์ โยมิอุริ ชิมบุน รายงาน
สำนักอุตุนิยมวิทยาญี่ปุ่น แถลงว่า ตั้งแต่เดือนมีนาคมปีที่แล้ว เกิดแผ่นดินไหวที่มีความรุนแรงระหว่าง 3.0-6.0 ในกรุงโตเกียวและบริเวณใกล้เคียงเฉลี่ย 1.48 ครั้งต่อวัน ซึ่งถี่กว่าก่อนเกิดสึนามิถึง 5 เท่า คณะนักวิจัยเผย
ก่อนหน้านี้ รัฐบาลญี่ปุ่นเคยพยากรณ์ไว้ว่า กรุงโตเกียวมีความเสี่ยง 70 เปอร์เซ็นต์ที่จะเกิดแผ่นดินไหวรุนแรง ภายใน 30 ปีข้างหน้า
นาโอชิ ฮิราตะ หนึ่งในนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยโตเกียว ระบุว่า ผลการศึกษาชี้ให้เห็นความถี่ของแผ่นดินไหวที่เพิ่มขึ้นในเขตเมืองหลวง ซึ่งทำให้แนวโน้มที่จะเกิดแผ่นดินไหวรุนแรงสูงขึ้นด้วย
แผ่นดินไหวขนาด 9.0 เมื่อปีที่ผ่านมาส่งผลให้เกิดคลื่นสึนามิซัดถล่มชายฝั่งตะวันออกเฉียงเหนือของญี่ปุ่น จนมีผู้เสียชีวิตและสูญหายไปไม่น้อยกว่า 19,000 ราย
อิทธิพลของคลื่นยักษ์ยังทำให้ระบบหล่อเย็นของเตาปฏิกรณ์ในโรงไฟฟ้า ฟูกูชิมะ ไดอิจิ เสียหาย ส่งผลให้แท่งเชื้อเพลิงหลอมละลาย และเกิดเป็นวิกฤตนิวเคลียร์ครั้งใหญ่
กรุงโตเกียวเคยประสบแผ่นดินไหวรุนแรงครั้งสุดท้ายเมื่อปี 1923 ซึ่งแรงสั่นสะเทือนขนาด 7.9 บริเวณที่ราบคันโตคร่าชีวิตชาวญี่ปุ่นไปกว่า 100,000 คน โดยส่วนใหญ่เสียชีวิตจากเหตุเพลิงไหม้
ก่อนหน้านั้น ยังเคยเกิดแผ่นดินไหวขนาด 6.9 ที่เมืองเอโดะ ในปี 1855
หมู่เกาะญี่ปุ่นตั้งอยู่บริเวณรอยต่อของแผ่นเปลือกโลก ซึ่งรู้จักกันในชื่อ “วงแหวนไฟ” ทำให้มีภูเขาไฟจำนวนมาก และเป็นหนึ่งในประเทศที่เกิดแผ่นดินไหวบ่อยที่สุดในโลก
กรุงโตเกียวตั้งอยู่เหนือจุดบรรจบของ 3 แผ่นทวีป ได้แก่ แผ่นยูเรเชีย, แผ่นแปซิฟิก และแผ่นทะเลฟิลิปปินส์ ซึ่งเมื่อแผ่นทวีปทั้ง 3บีบอัดเข้าหากันอย่างช้าๆ จะทำให้เกิดแรงไหวอย่างมหาศาล