เอเอฟพี - มูดีส์ สถาบันเครดิตเรตติ้งทรงอิทธิพลของโลก ปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของโซนี่ และพานาโซนิค บริษัทอิเล็กทรอนิกส์ยักษ์ใหญ่ของญี่ปุ่น โดยให้ทิศทางแนวโน้ม (outlook) เป็นลบทั้งสองบริษัท
สถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือแห่งนี้ปรับลดการประเมินตราสารหนี้ ที่ออกโดยโซนี เหลือ Baa1 จาก A3 โดยอ้างว่ามีผลกำไรน้อย และไม่แน่นอน ขณะที่พานาโซนิค เหลือ A2 จาก A1 โดยอ้างถึงนักวิเคราะห์ ที่เป็นกังวลว่าภาวะการณ์ที่อ่อนแอของบริษัทนี้จะยังดำเนินต่อไป
มูดีส์กล่าวว่า หนี้ระยะยาวมูลค่าราว 5,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ของโซนี่จะได้รับผลกระทบจากการประกาศลดเรตติ้งครั้งนี้ โดยปัญหาใหญ่นั้นเกิดจากธุรกิจโทรทัศน์ ที่มีการแข่งขันรุนแรง ราคาลดลงอย่างรวดเร็ว และเงินเยนแข็งค่า
ถ้อยแถลงของมูดีส์ระบุว่า โซนี่น่าจะขาดทุนจากการดำเนินงานประมาณ 125,000 ล้านเยน หรือเสียส่วนต่างของกำไรจากการดำเนินงานประมาณ 14% โดยไม่รวมค่าใช้จ่าย 50,000 ล้านเยน ในธุรกิจโทรทัศน์ ซึ่งคิดเป็นกว่า 15% ของบริการ ที่ไม่ใช่ทางการเงิน
มูดีส์ชี้ว่า เมื่อโซนี่ยุติการร่วมทุนกับซัมซุงในภาคแอลซีดี จะทำให้บริษัทซื้อส่วนประกอบในตลาดเปิดได้คล่องตัวกว่า แต่เชื่อว่า โซนี่ยังจะต้องเจอปัญหาในการทำกำไรส่วนของโทรทัศน์ต่อไปอีก 2 ปีข้างหน้า
ขณะที่ตราสารหนี้มูลค่า 900,000 ล้านเยนของพานาโซนิคอาจจะได้รับผลกระทบจากการปรับลดเรตติ้งครั้งนี้ด้วย
มูดีส์ระบุว่า ฐานะทางการเงินของพานาโซนิคแย่ลงนับตั้งแต่เข้าไปถือหุ้นที่เหลือของบริษัทในเครือสำคัญ 2 แห่งคือพานาโซนิค อิเลคทริค เวิร์คส์ และซันโย อิเลคทริค
ยิ่งไปกว่านั้น หนี้สินสุทธิของพานาโซนิคเพิ่มขึ้นเป็น 550,000 ล้านเยน จากประมาณ 100,000 ล้านเยนในปีก่อนหน้า ทำให้สัดส่วนของหนี้สินต่อทุนเพิ่มขึ้นเป็นประมาณ 45% จากเดิมที่มีประมาณ 35%
"ในความเห็นของมูดีส์ พานาโซนิคไม่น่าจะสามารถฟื้นฐานะการเงินได้ทันเวลา ในจำนวนเหตุผลสำคัญที่สุดก็คือการขาดทุนในธุรกิจโทรทัศน์ และรายได้จากธุรกิจผลิตสารกึ่งตัวนำลดลง" สถาบันเครดิตเรตติ้งเสริม
