เอเอฟพี/ASTVผู้จัดการออนไลน์ - อันวาร์ อิบรอฮิม ผู้นำฝ่ายค้านของมาเลเซีย ประกาศพร้อมแล้วสำหรับการถูกลงโทษคุมขัง ขณะเตรียมจัดชุมนุมครั้งสุดท้ายก่อนรับฟังคำพิพากาษาของศาลในวันจันทร์ (9)
สัปดาห์ที่ผ่านมา อันวาร์เดินสายปราศรัยเผ็ดร้อนต่อกลุ่มผู้สนับสนุนตามเมืองต่างๆ ทั่วแดนเสือเหลือง โดยประณามข้อกล่าวหามีพฤติการณ์ร่วมเพศทางทวารหนักที่เขาถูกฟ้องร้องว่า เป็นแผนการร้ายของรัฐบาลทีมุ่งทำลายล้างเขาในทางการเมือง
ผู้นำฝ่ายค้านผู้นี้มีกำหนดปราศรัยต่อผู้สนับสนุนในกัวลาลัมเปอร์คืนวันอาทิตย์ (8) ตามด้วยการร่วมชุมนุมอีก 2 จุดก่อนเข้าฟังคำตัดสินของศาลที่กำหนดจะมีขึ้นในเช้าวันนี้
ในการสัมภาษณ์สั้นๆ เมื่อวันอาทิตย์ อันวาร์บอกกับสำนักข่าวเอเอฟพีว่า เขาเตรียมใจพร้อมแล้วสำหรับการถูกตัดสินว่ามีความผิดในคดีร่วมเพศทางทวารหนักผู้ช่วยชายผู้หนึ่งของเขาในปี 2008
มาเลเซียมีกฎหมายถือพฤติการณ์เช่นนี้เป็นความผิดทางอาญา ตั้งแต่สมัยเป็นอาณานิคมของอังกฤษ แต่ขณะที่ปัจจุบันอังกฤษได้ยกเลิกกฎหมายลักษณะนี้ไปแล้ว กฎหมายมาเลเซียยังคงถือเป็นความผิด และมีระวางโทษสูงสุดจำคุก 20 ปี
อันวาร์บอกว่า “ในทางจิตใจ ผมพร้อมแล้ว แต่ทางกายภาพ แน่นอน ด้วยวัย 64 ปี สุขภาพของผมคงไม่แข็งแรงเท่าตอนอายุ 50 ปี”
บรรยากาศในกรุงกัวลาลัมเปอร์อยู่ในสภาพเตรียมตัวรับความไม่สงบที่อาจจะเกิดขึ้น จากการที่พวกฝ่ายค้านประกาศว่า มีแผนรวบรวมประชาชน 100,000 คนออกมาชุมนุมหน้าศาล ซึ่งผู้พิพากษาโมฮัมหมัด ซาบิดิน ดิอาห์ จะอ่านคำตัดสินคดีของอันวาร์
กระนั้น อันวาร์ระบุว่า ได้ขอให้ผู้สนับสนุนชุมนุมกันอย่างสันติ รวมทั้งสลายตัวอย่างรวดเร็วหลังรับรู้คำพิพากษา นอกจากนี้ ยังไม่มีรายงานความไม่สงบระหว่างที่เขาเดินสายพบปะผู้สนับสนุนแต่อย่างใด
“ผมไม่คิดว่าจะเกิดเหตุการณ์รุนแรง” อันวาร์สำทับว่า ผู้มีสิทธิ์ออกเสียงควรอดใจรอไปแก้แค้นในการหย่อนบัตรเลือกตั้ง ซึ่งตามวาระแล้วรัฐบาลจะต้องจัดให้มีขึ้นภายในต้นปี 2012 นี้
นอกจากนั้นยังเป็นที่น่าสังเกตว่า ตำรวจมาเลเซียกำลังแสดงท่าทีผ่อนปรนแบบที่ไม่เกิดขึ้นบ่อยนัก โดยอนุญาตให้มีการชุมนุมหน้าศาลได้แต่ต้องอยู่ภายในความสงบ
เพียงเมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา การเดินขบวนเรียกร้องการปฏิรูปการเลือกตั้งที่มีผู้คนนับหมื่นเข้าร่วมในกรุงกัวลาลัมเปอร์ ยังทำให้เกิดการปะทะกับตำรวจที่ใช้ก๊าซน้ำตาและหัวฉีดน้ำเป็นอาวุธ และมีผู้ถูกจับกุมถึงราว 1,600 คน
คำตัดสินของศาลในคดีนี้ทำให้ย้อนนึกถึงการตกจากอำนาจของอันวาร์เมื่อกว่าสิบปีที่แล้ว
ด้วยตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีเมื่อทศวรรษ 1990 อันวาร์คือทายาททางการเมืองของนายกรัฐมนตรีมหาเธร์ โมฮัมหมัด กระทั่งเกิดความขัดแย้งขึ้นและอันวาร์ถูกปลดฟ้าผ่าในปี 1998 จากนั้นเขายังถูกซ้อมและจำคุกในข้อหาร่วมเพศทางทวารหนักและติดสินบน
เวลานั้นมีผู้คนนับหมื่นๆ ชุมนุมบนท้องถนนในการประท้วงครั้งใหญ่เรียกร้องการปฏิรูป และประณามการปลดอันวาร์ที่ถูกมองอย่างกว้างขวางว่า เป็นแผนการทางการเมืองของมหาเธร์
หลายปีให้หลัง อันวาร์กลับมาอีกครั้งในฐานะผู้นำฝ่ายค้าน เขาเป็นแรงบันดาลใจให้พรรคฝ่ายค้านต่างๆ ร่วมเป็นพันธมิตรและกวาดคะแนนเพิ่มขึ้นอย่างไม่เคยเป็นมาก่อนในการเลือกตั้งปี 2008 ที่ทำให้ฐานอำนาจของพรรครัฐบาลสั่นคลอน
และหลังจากนั้นไม่นานก็มีการแจ้งข้อกล่าวหามีพฤติการณ์ร่วมเพศทางทวารหนักต่ออันวาร์อีก
อย่างไรก็ตาม อันวาร์ตอกย้ำความคิดเห็นของผู้สังเกตการณ์ทางการเมืองจำนวนมากว่า การตัดสินว่าเขามีความผิดจะเป็นผลดีต่อพรรคฝ่ายค้านในระยะยาว และว่าคดีนี้แสดงให้เห็นว่า คำสัญญาของนายกรัฐมนตรีนาจิบ ราซัค ในการให้เสรีภาพแก่ประชาชนมากขึ้น เป็นเพียงการหาเสียงในช่วงเลือกตั้งของผู้นำเผด็จการ
ทว่า อันวาร์ที่มีท่าทีเหนื่อยล้า ยอมรับว่าการต่อสู้ทางกฎหมายนานหลายปีมีผลต่อครอบครัวของเขา ซึ่งรวมถึงวัน อาซิซะห์ วัน อิสมาอิล ภรรยา ที่กลายเป็นสัญลักษณ์ของฝ่ายค้านระหว่างที่อันวาร์ถูกเนรเทศทางการเมืองก่อนหน้านี้
ผู้เชี่ยวชาญทางกฎหมายและการเมืองกล่าวว่า อันวาร์มีสิทธิลงเลือกตั้งที่กำลังจะมีขึ้นตราบที่กระบวนการอุทธรณ์ยังไม่สิ้นสุด