เอเอฟพี - เฟซบุ๊กของเครือข่ายผู้เรียกร้องให้นายกรัฐมนตรี นาจิบ ราซัค แห่งมาเลเซีย ลาออก มีผู้ร่วมอุดมการณ์กดถูกใจมากกว่า 170,000 คน ไม่กี่วันหลังมีการประท้วงเรียกร้องให้ปฏิรูปการเลือกตั้งโดยสงบ ซึ่งถูกตำรวจปราบจลาจลใช้กำลังเข้าสลายฝูงชน
หน้าเฟซบุ๊กนี้ใช้ชื่อว่า “ประชาชน 100,000 คน เรียกร้องให้ นาจิบ ตุน ราซัค ลาออก” และตั้งขึ้นมาเมื่อวันเสาร์ (9) วันที่ตำรวจับกุมประชาชนมากกว่า 1,600 คน ระหว่างการประท้วงกลางกรุงกัวลาลัมเปอร์ ซึ่งมีมวลชนเข้าร่วมหลายหมื่นคน
ด้วยการสนับสนุนจากพรรคฝ่ายค้าน กลุ่มเบอร์ซีห์ 2.0 (Bersih 2.0) แกนนำการประท้วง สามารถระดมประชาชนร่วมชุมนุมได้หลายพันหลายหมื่นคน กลายเป็นการประท้วงกลางท้องถนนครั้งใหญ่ที่สุดในรอบ 4 ปีของมาเลเซีย เพิ่มแรงกดดันนายกรัฐมนตรีนาจิบ กรณีเกี่ยวกับการเลือกตั้งที่เชื่อกันว่าจะมีขึ้นในปีหน้า
หลังจากเสร็จสิ้นการชุมนุม เฟซบุ๊กของเครือข่ายนี้มีผู้กดปุ่ม “ถูกใจ” ประมาณ 300 คนต่อนาที และครบเป้าหมาย 100,000 คน เมื่อช่วงเช้าวันจันทร์ (11) นอกจากนี้ จำนวนสมาชิกยังเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จนถึงวันนี้มีผู้กดไลค์หน้าเฟซบุ๊กแห่งนี้มากถึง 173,897 คน
“ฉันไม่เข้าใจว่าทำไมต้องใช้ความรุนแรง การทุบตี และแก๊สน้ำตา” โซเฟีย มูฮัมหมัด หนึ่งในกลุ่มผู้สนับสนุน โพสต์ข้อความไว้ “ผู้ชุมนุมไม่ได้ขว้างปาก้อนหินใส่ร้านค้า รัฐบาลจะกลัวอะไร? สิ่งที่เราต้องการ คือ การเลือกตั้งอย่างอิสระ”
ผู้สนับสนุนบางส่วนยังมองว่า นายกรัฐมนตรีผู้นี้ไม่ได้รับรู้เรื่องราวที่เกิดขึ้นจริง โดย หลงเหยา ฟาง โพสต์ความเห็นไว้ว่า “นาจิบไม่รู้อะไรเลย เขาไม่เข้าใจความเจ็บปวดจากแก๊สน้ำตา ความระคายเคืองจากน้ำสารเคมี ความเจ็บปวดจากการถูก (ตำรวจ) เตะและตี”
ส่วน อันวาร์ อิบราฮิม แกนนำพรรคฝ่ายค้านมาเลเซีย กล่าวถึงการเคลื่อนไหวของกลุ่มนักต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย ว่า เป็นสัญญาณที่ดีสำหรับอนาคตของประเทศ
“ผมขอวิงวอนให้พวกเขาเดินหน้าติดตามพัฒนาการต่อไป ใช้สิทธิที่มี กล้าที่จะเชื่อมั่นในจุดยืนที่ถูกต้อง”
นายกรัฐมนตรี นาจิบ ราซัค กล่าวหาอันวาร์ว่าอยู่เบื้องหลังการชุมนุมครั้งนี้ และคอยเป่าหูองค์กรต่างๆ ให้คอยหนุนหลังความปรารถนาที่จะขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรีคนต่อไป
ทั้งนี้ มาเลเซียเป็นประเทศที่ตื่นตัวในการใช้สังคมออนไลน์และบล็อกเป็นอย่างยิ่ง เมื่อปีที่แล้ว ทีเอ็นเอส บริษัทวิจัยระดับโลก รายงานว่าชาวมาเลเซียได้รับความนิยมบนอินเตอร์เน็ตมากที่สุด โดยเฉลี่ยชาวมาเลเซียจะมีเพื่อนในสังคมออนไลน์ 233 คน เปรียบเทียบกับชาวจีน ซึ่งมีเพื่อนออนไลน์ 68 คน และญี่ปุ่นมี 29 คน
