เอเอฟพี - ประธานาธิบดีเซบาสเตียน ปิเนรา แห่งชิลี ร้องขอกฎหมายต่อต้านก่อการร้าย หลังจากเจ้าหน้าที่ดับเพลิง 7 นายต้องมาจบชีวิตลงจากเปลวเพลิงของไฟป่าซึ่งเจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่าน่าจะเป็นการลอบวางเพลิงของพวกนักเคลื่อนไหวชนเผ่าหัวรุนแรง
ด้วยสภาพอากาศร้อนจัดและแห้งผิดปกติในช่วงต้นฤดูร้อนของชิลีในปีนี้ ส่งผลให้เกิดไฟป่ากว่าที่โหมกระพือจากลมกระโชกแรงกว่า 50 จุด ทำบ้านเรือนราษฎรหลายร้อยคนหลังได้รับเสียหายและทำลายพื้นที่ป่ากินบริเวณกว้างราว 20,000 ไร่ในช่วงสิบวันที่ผ่านมา ขณะที่ยอดผู้เสียชีวิตจนถึงวันศุกร์(6) เพิ่มขึ้นเป็น 7 ราย หลังค้นพบร่างไร้วิญญาณของนักดับเพลิงที่สูญหายเพิ่มอีก 1 ศพ
เจ้าหน้าที่ต้องสงสัยว่าเหตุไฟไหม้หลายจุดที่ปะทุขึ้นเกือบจะพร้อมๆกันตามป่าในแคว้นต่างๆทั้ง บีโอบีโอ เมาเลและอาเรากานีอา ในรัศมีห่างจากกรุงซันติอาโก ไปทางใต้ราว 500 กิโลเมตรถึง 700 กิโลเมตร เป็นฝีมือของพวกลอบวางเพลิง
"เรามีข้อมูลที่น่าเชื่อถือที่ทำให้เราสันนิษฐานได้ว่าไฟป่าเหล่านี้เกิดจากโดยเจตนา" ปิเนราบอกเมื่อวันพฤหัสบดี(5) "ผมเชื่อว่าเราไม่ได้แค่ต่อสู้กับเปลวเพลิง แต่มีพวกอาชญากรอยู่เบื้องหลังเหตุไฟไหม้นี้"
ต่อมานายโรดริโก อินซ์ปีเตอร์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยแย้มว่าเหตุเพลิงไหม้ดังกล่าวอาจเป็นฝีมือของพวกอารัวโค-มาลเลโค(ซีเอเอ็ม) กลุ่มเครือข่ายของนักเคลื่อนไหวมาปูเช ซึ่งเคยออกมาอ้างว่าอยู่เบื้องหลังเหตุลอบวางเพลิงซึ่งก่อความเสียหายแก่เฮลิคอปเตอร์ดับเพลิงหนึ่งลำและรถดับเพลิงอื่นๆอีกหลายคันเมื่อวันที่ 30 ธันวาคมที่ผ่านมา
ทั้งนี้กฎหมายต่อต้านก่อการร้ายที่ปิเนราร้องขอนั้น กลายเป็นข้อถกเถียงกันอย่างหนักในเปรู เนื่องจากมันมีมาตั้งแต่ยุค ออกุสติน ปิโนเชต์ ผู้นำจอมเผด็จการช่วงทศวรรษ 1973-90
ความโดดเด่นของกฎหมายที่รุนแรงฉบับนี้คืออนุญาตให้ลงโทษสถานหนักต่อผู้กระทำผิด กักตัวผู้ต้องสงสัยไว้เป็นเวลานานโดยไม่จำเป็นต้องแจ้งข้อกล่าวหาและสามารถใช้พยานนิรนามในการพิจารณาคดี