เอเอฟพี - หลังจากผู้นำ คิม จอง อิล สิ้นชีวิตลงอย่างกะทันหันเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว สถานที่อยู่ของ คิม จอง นัม บุตรชายคนโต จึงกลายเป็นสิ่งที่หลายฝ่ายกำลังจับตามองอย่างใกล้ชิด
ว่ากันว่า บุตรชายคนโตของผู้นำคิมใช้ชีวิตหรูหราฟุ่มเฟือยอย่างเงียบๆ บนเกาะมาเก๊า หลังถูกจับได้ว่าปลอมหนังสือเดินทางไปเที่ยวโตเกียวดิสนีย์แลนด์ เมื่อปี 2001
ลูกที่ถูกลืมของพ่อและทายาทผู้นำที่คณะปกครองเกาหลีเหนือไม่ใส่ใจรายนี้ ได้แต่มองดูอยู่ห่างๆ ขณะที่น้องชายต่างมารดาอย่าง คิม จอง อึน ถูกวางตัวให้เป็นผู้สืบทอดอำนาจตั้งแต่ปี 2009
ความเคลื่อนไหวของ จอง นัม นับตั้งแต่เกาหลีเหนือแถลงข่าวการถึงแก่อสัญกรรมของผู้นำคิม อาจเป็นสัญญาณบ่งชี้ถึงแผนการอันแยบยลของกรุงเปียงยางขณะที่คอมมิวนิสต์โสมแดงมาถึงจุดเปลี่ยนผ่านอำนาจ ทว่าผู้สังเกตการณ์ในมาเก๊าระบุว่า จอง นัม ยังคงใช้ชีวิตอยู่นอกจอเรดาร์เหมือนเดิม
“เขาเดินทางไปที่นั่นที่นี่ตลอดเวลา จึงยากที่จะหาตัวพบ” ริคาร์โด ปินโต เจ้าของนิตยสาร มาเก๊า โคลสเซอร์ ซึ่งติดตามความเคลื่อนไหวของ จอง นัม ในอดีตดินแดนอาณานิคมของโปรตุเกส เผย
“บางครั้งเขาก็อยู่บ้าน แต่บางทีก็ย้ายไปนอนตามโรงแรมต่างๆ จึงบอกไม่ได้ว่าเขาอยู่ที่ไหน”
จอง นัม ปรากฏตัวผ่านสื่อครั้งสุดท้ายเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา โดยให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์ โตเกียว ชิมบุน ณ สถานที่แห่งหนึ่งทางตอนใต้ของจีน
เขาบอกว่า อันที่จริงแล้ว คิม จอง อิล ซึ่งรับตำแหน่งผู้นำประเทศต่อจากอดีตประธานาธิบดี คิม อิล ซุง ในปี 1994 ไม่ได้สนับสนุนการสืบอำนาจตามสายตระกูลสู่รุ่นที่ 3 แต่ที่แต่งตั้ง จอง อึน ซึ่งอยู่ในวัย 20 ปลายๆ และไม่มีประสบการณ์ทางการเมืองเลยนั้น ก็เพราะต้องการให้บ้านเมืองมีเสถียรภาพ
“การสืบอำนาจตามสายเลือดไม่เคยเกิดขึ้น แม้กระทั่งในยุคผู้นำ เหมา เจ๋อตง ของจีน” จอง นัม ในชุดเสื้อเชิ้ตสีชมพูสวมทับด้วยแจ็กเก็ต พร้อมแว่นตาสีน้ำตาล ให้สัมภาษณ์
“(การสืบอำนาจตามสายเลือด)ไม่เหมาะกับระบอบสังคมนิยม และพ่อผมก็ไม่เห็นด้วย... ผมเข้าใจว่าที่พ่อต้องทำอย่างนี้ก็เพื่อสร้างความมั่นคงแก่แม่แบบของประเทศ” จอง นัม กล่าว พร้อมเตือนว่า หากเกาหลีเหนือขาดเสถียรภาพจะส่งผลกระทบถึงประเทศที่อยู่ใกล้เคียงทั้งหมด
แม้ผู้สังเกตการณ์ส่วนใหญ่จะเชื่อว่า จอง นัม พำนักอยู่ในมาเก๊าเป็นหลักหลังถูกขับออกจากญี่ปุ่นเมื่อหลายปีก่อน แต่มีรายงานว่า เขามีบ้านในกรุงปักกิ่ง และเคยเดินทางเยือนประเทศอื่นๆ อยู่บ่อยครั้ง เช่น ออสเตรีย, ฝรั่งเศส รวมถึงไทย
นักวิเคราะห์มองว่า การถ่ายโอนอำนาจสู่ผู้ปกครองรุ่นใหม่อาจเป็นประตูสู่การปฏิรูป และฟื้นฟูความสัมพันธ์ระหว่างเกาหลีเหนือกับโลกภายนอก เนื่องจาก จอง อึน เป็นผู้นำคนแรกของเกาหลีเหนือที่ได้รับการศึกษาจากตะวันตก
จอง นัม เองก็เคยไปศึกษาที่โรงเรียนประจำในสวิตเซอร์แลนด์เช่นกัน แต่เนื่องจากเขาใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับเหล้าและการพนันขันต่อ ทำให้ภาพลักษณ์ดูย่ำแย่ในสายตาของคณะปกครองที่เปียงยาง นักวิเคราะห์เผย
“เขาออกไปอยู่ต่างประเทศนานเกินไป และไม่มีฐานอำนาจทางการเมืองในเกาหลีเหนือเลย” โจเซฟ เช็ง นักวิเคราะห์การเมืองจาก ซิตี ยูนิเวอร์ซิตี ออฟ ฮ่องกง ระบุ
จอง นัม ซึ่งเคยถูกคาดหมายว่าจะเป็นทายาททางการเมืองของผู้นำคิมในช่วงปลายทศวรรษที่ 1990 เคยมีตำแหน่งเป็นถึงนายพลและหัวหน้าหน่วยป้องกันข่าวกรองเกาหลีเหนือ ซึ่งจากประสบการณ์ดังกล่าวน่าจะทำให้เขาเป็นตัวเลือกที่ดีกว่า จอง อึน ทว่าเขาเองกลับไม่ใยดีตำแหน่งสูงสุดในรัฐบาล
“ถ้าผมเป็นคนสืบทอดตำแหน่ง คุณจะได้เห็นผมใส่เสื้อยืดเดินทอดหุ่ยอยู่ในมาเก๊านี่หรือ? ผมก็แค่ลูกชายคนหนึ่งของ คิม จอง อิล เท่านั้น” เขากล่าวกับผู้สื่อข่าวโทรทัศน์ญี่ปุ่น เมื่อปี 2009
ในการให้สัมภาษณ์ล่าสุดต่อ โตเกียว ชิมบุน จอง นัม เผยว่ารู้สึก “ปวดใจ” เมื่อได้ทราบความอดอยากยากแค้นของพลเมืองเกาหลีเหนือ และเรียกร้องให้ผู้นำในกรุงเปียงยาง “ใส่ใจกับการปฏิรูปและเปิดประเทศ”
“สิ่งที่เกาหลีเหนือต้องการมากที่สุดก็คือ การฟื้นฟูสัมพันธ์กับสหรัฐฯ และสันติภาพบนคาบสมุทรเกาหลี” เขากล่าว