xs
xsm
sm
md
lg

เด็กสาวอินโดฯคืนสู่อกครอบครัวหลังพลัดหลงตั้งแต่สึนามิ2004

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

แมรี ยูรันดา ซึ่งเวลานี้อายุ 14 ปี กลับคืนสู่อ้อมอกของครอบครัวอีกครั้งเมื่อวันพุธ(21)
เอเอฟพี - เด็กสาวชาวอินโดนีเซียรายหนึ่งที่พลัดหลงกับพ่อแม่ระหว่างเหตุการณ์สึนามิซัดถล่มมหาสมุทรอินเดียเมื่อปี 2004 กลับสู่อ้อมอกของครอบครัวอีกครั้ง หลังต้องเร่ร่อนตามท้องถนนนานกว่า 7 ปี

แมรี ยูรันดา ซึ่งเวลานี้อายุ 14 ปี กลับคืนสู่อ้อมอกของครอบครัวอีกครั้งเมื่อวันพุธ(21) หลังแท็กซี่รายหนึ่งพาเธอมาพบกับพ่อแม่ หลังได้รับฟังคำบอกเล่าจากเด็กหญิงรายนี้ สิ้นสุด 7 แห่งความยากลำบากอย่างแสนสาหัสที่เธอต้องใช้ชีวิตอยู่กับสตรีหม้ายรายหนึ่งที่บังคับขอทานตามท้องถนนสายต่างๆ

ยูรันดา เข้าไปยังคาเฟ่แห่งหนึ่งในเมืองเมอลาโบะห์ ในจังหวัดอาเจะห์ พื้นที่ซึ่งครั้งหนึ่งเคยได้รับความเสียหายอย่างใหญ่หลวงจากมหันตภัยสึนามิ สถานที่ที่เธอได้เจอกลับมาเจอหน้าพ่อแม่อีกครั้ง "ตอนที่เธอเห็นแม่เธอตะโกนเรียกแม่ดังลั่นและวิ่งเข้าหา" นายตาร์มิอุส ผู้เป็นพ่อบอกกับเอเอฟพี "ทั้งสองต่างโอบกอดกันและร้องไห้"

ส่วนนางยุสนิดาร์ วัย 35 ปี ผู้เป็นแม่บอกว่าลูกสาวของเธอโตขึ้นมากจนแทบจำไม่ได้เลย "เด็กคนนี้มีปานตรงท้อง มีไฝ 1 อันและแผลเป็นอยู่บนหน้า นั่นพิสูจน์ได้ว่าเด็กสาวคนนี้คือลูกของฉัน ฉันไม่รู้จะอธิบายความรู้สึกตื้นตันนี้ยังไง"

พ่อแม่ของเด็กยังไม่ต้องการให้ลูกสาวให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนและอยากให้เธอพักฟื้นร่างกายและจิตใจหลังถูกหญิงหม้ายทำร้ายอยู่เป็นประจำ อย่างไรก็ตามทั้งคู่เล่าว่า แมรี พลัดหลงกับพวกเขาหลังจากถูกคลื่นยักษ์สึนามิซัดในวันที่ 26 ธันวาคม 2004

จากนั้นหญิงหม้ายก็พบเด็กรายนี้และพาเธอไปยังบันดา อาเจะห์ เมืองหลวงของจังหวัดพร้อมเปลี่ยนชื่อให้เป็น "เฮราวาตี" และบังคับให้เธอขอทาน โดยสตรีใจเหี้ยมรายนี้มักทำร้ายเธอเป็นประจำเพื่อไม่ให้ขัดคำสั่ง

จนถึงเมื่อวันอังคารที่แล้ว แมรี ไม่ยอมขอทานอีก ทำเอาหญิงหม้ายโกรธเป็นฟืนเป็นไฟจึงจับเธอยัดขึ้นรถบัสส่งกลับมายังเมอลาโบะห์ ก่อนที่เธอจะได้รับความช่วยเหลือจากแท็กซีอีกต่อหนึ่ง

บิดาของเด็กเล่านาทีชีวืตในตอนนั้นว่าทุกคนอยู่บนรถบรรทุกขนาดเล็กและเขาพยายามขับรถพาครอบครัวทั้งภรรยา ลูกสาว 2 คนและลูกชายตัวเล็กๆอีก 1 คนฝ่าคลื่นยักษ์หนีออกจากหมู่บ้าน

อย่างไรก็ตามระหว่างนั้นรถก็ถูกคลื่นซัดลอยไปตามกระแสน้ำหลายกิโลเมตร แต่โชคดีที่ไปติดอยู่กับบ้าน 2 ชั้นหลังหนึ่ง "เราพยายามปีนขึ้นไปชั้นบนของบ้าน แต่ภรรยาและลูกชายติดอยู่ตรงซอกระหว่างรถกับตัวบ้าน"

"ดังนั้นผมจึงอุ้มลูกสาวขึ้นไปที่ชั้นบนก่อน และระหว่างที่ผมหันกลับมาคว้าตัวลูกชาย คลื่นยักษ์อีกลูกก็ถามโถมเข้ามาซัดภรรยาและลูกสาวทั้งสองคนของผมลอยหายไปกับกระแสน้ำ" เขาเล่า "ผมกลับมาที่บ้านหลังนั้นอีกครั้งในตอนกลางคืนเพื่อค้นหาภรรยาและลูกสาว และผมก็พบเมียของผมในวันถัดมา"

ต่อมาทั้งสองคนก็เริ่มช่วยกันตามหาลูกสาว 2 คนที่สูญหายไป โดยสองสามีภรรยาพากันเดินทางไปยังตำบลแล้วตำบลเล่าในทุกที่ที่มีข่าวพบผู้รอดชีวิต แต่สุดท้ายก็สิ้นหวัง จนกระทั่งในวันนี้ อย่างไรก็ตามเป็นที่น่าเศร้าว่าลูกสาวคนโตของพวกเขายังคงหายสาบสูญ
กำลังโหลดความคิดเห็น