เอเอฟพี - ยอดผู้เสียชีวิตจากฤทธิ์ไต้ฝุ่น “วาชิ” ทางภาคใต้ของฟิลิปปินส์ เพิ่มขึ้นเป็น 927 ศพแล้ว หลังเจ้าหน้าที่พบศพจำนวนมากเริ่มลอยขึ้นสู่พื้นผิวของทะเล ประธานสภาเฝ้าระวังหายนภัยแห่งชาติของรัฐบาลเปิดเผยเมื่อช่วงค่ำวันจันทร์ (19)
นอกจากนี้ เบนิโต รามอส ผู้อำนวยการบริหารสภาการจัดการและลดความเสี่ยงภัยพิบัติแห่งชาติของฟิลิปปินส์ ยังคาดหมายด้วยว่าจะพบศพลอยอยู่ตามทะเลเพิ่มเติมอีกหลังจากในตอนเช้าวันอังคาร (20)
นายรามอส ยืนยันว่า ยอดรวมผู้เสียชีวิตเวลานี้อยู่ที่ 927 คน พร้อมระบุว่า ทางสภาการจัดการและลดความเสี่ยงภัยพิบัติแห่งชาติ ยังไม่สามารถยืนยันถึงตัวเลขผู้สูญหายที่แน่ชัดได้หลังจากพายุไต้ฝุ่นลูกนี้นำพามาซึ่งฝนตกหนัก น้ำท่วมฉับพลันและน้ำเอ่อล้นแม่น้ำหลายสายบนเกาะมินดาเนา ทางภาคใต้ของประเทศ
“ศพผู้เสียชีวิตถูกซัดออกสู่ทะเล ช่วง 3 วันแรกศพเหล่านั้นจมอยู่ใต้น้ำ แต่ตอนนี้ในสภาพเน่าเปื่อย ศพก็ลอยขึ้นมาและลอยขึ้นสู่ผิวทะเล” นายรามอส บอกกับเอเอฟพี “ยอดผู้เสียชีวิตน่าจะสูงขึ้นอีกในตอนเช้า เนื่องจากคาดหมายว่าคงมีศพลอยขึ้นสู่ผิวน้ำมากขึ้น”
ทั้งนี้ ยอดผู้เสียชีวิตดังกล่าวถือเพิ่มขึ้นอย่างมากจากข้อมูลเก่าของสภาการจัดการและลดความเสี่ยงภัยพิบัติแห่งชาติที่เปิดเผยไม่กี่ชั่วโมงก่อนหน้านี้ที่บอกว่าพบผู้เสียชีวิต 662 รายและสูญหาย 82 คน
ยอดผู้เสียชีวิตจำนวนมากถูกเปิดเผยออกมาขณะที่เจ้าหน้าที่กู้ภัยของทางการพบศพเพิ่มเติมบนเกาะมินดาเนา โดยเฉพาะตามท่าต่างๆของเมืองคากายัน เดอ โอโรและเมืองอิลิแกน สองเมืองที่พบความสูญเสียจากพายุวาชิเลวร้ายที่สุด
หมู่บ้านหลายแห่งที่ตั้งอยู่ตามสันดอนทราย หรือสองริมฝั่งแม่บ้านถูกซัดหายวับไปกับตาตอนที่พายุวาชิพัดถล่มฝั่งเกาะมินดาเนาและพื้นที่ใกล้เคียงเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา
แม้หมู่เกาะฟิลิปปินส์เผชิญกับพายุไต้ฝุ่นเฉลี่ยปีละ 20 ลูก แต่เนื่องจากพายุส่วนใหญ่จะพัดเข้าทางตอนเหนือของประเทศ ดังนั้น ประชาชนในแถบพื้นที่ประสบภัยครั้งนี้ ซึ่งตั้งอยู่ห่างจากกรุงมะนิลา ราว 800 กิโลเมตร จึงไม่ได้เตรียมรับมืออันตรายจากไต้ฝุ่นวาชิ ซึ่งซัดนำพาอุทกภัยเข้าเล่นงานบ้านเรือนราษฎรอย่างฉับพลันช่วงกลางดึกก่อนรุ่งสางของวันเสาร์ (17)
สภาการจัดการและลดความเสี่ยงภัยพิบัติแห่งชาติเปิดเผยต่อว่าพายุลูกนี้ ส่งผลให้มีประชาชนกว่า 88,000 คนต้องไร้ที่อยู่อาศัย แต่เวลานี้ครึ่งหนึ่งในจำนวนนั้นได้เข้าพักอาศัยในศูนย์พักพิงชั่วคราวที่รัฐบาลจัดไว้ให้แล้ว
ประธานาธิบดี เบนีโญ อากีโน มีกำหนดเดินทางเยือนพื้นที่ประสบภัยในวันอังคาร (20) หลังออกคำสั่งให้ทบทวนมาตรการป้องกันภัยพิบัติของรัฐบาล
ไต้ฝุ่นวาชิ มีความรุนแรงเทียบเท่าไต้ฝุ่นเคตซานา หนึ่งในพายุที่สร้างความเสียหายต่อฟิลิปปินส์มากที่สุด โดยพายุเคตซานาทำให้เกิดฝนตกหนักในมะนิลาและส่วนอื่นๆ ของประเทศในปี 2009 และทำให้มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 460 ราย