น้ำมันนิวยอร์กดิ่งแรงหลังศก.จีนชะลอตัว-หุ้นสหรัฐฯปิดบวก

เอเอฟพี - ราคาน้ำมันตลาดนิวยอร์กดิ่งแรงเมื่อวันพฤหัสบดี(15) เหตุนักลงทุนยังกังวลต่อวิกฤตหนี้ที่ลุกลามของยุโรปและเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลงในจีน ขณะที่วอลล์สตรีท บวกเล็กน้อยหลังได้ปัจจัยหนุนจากข้อมูลภาคแรงงานและภาคการผลิตของสหรัฐฯ

สัญญาล่วงหน้าน้ำมันดิบชนิดไลต์สวีตครูดของสหรัฐฯ งวดส่งมอบเดือนมกราคม ลดลง 1.08 ดอลลาร์ ปิดที่ 93.87 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกัน เพิ่มขึ้น 17 เซนต์ ปิดที่ 105.09 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

ราคาน้ำมันนิวยอร์กดิ่งลงกว่า 5 เปอร์เซนต์ในวันพุธ(14) ท่ามกลางสัญญาณต่างๆที่แสดงถึงความเปราะบางของบทบัญญัติทางการคลังฉบับใหม่ที่ผ่านความเห็นชอบจากที่ประชุมอียูเมื่อปลายสัปดาห์ที่แล้ว จนนักลงทุนตั้งข้อสงสัยว่าแผนนี้เพียงพอที่จะคลี่คลายวิกฤตหนี้ยูโรโซนหรือไม่

"ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง" ทอม เบนต์ซ นักวิเคราะห์จากบีพี พาริบาสกล่าว "ตลาดยังมีความกังวลอย่างมากต่อปัญหาในยุโรปและภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวของจีน"

ความกังวลต่อวิกฤตหนี้ยุโรปที่ลุกลามถูกซ้ำเติมจากข้อมูลทางเศรษฐกิจอันอ่อนแอในจีน ฟันเฟืองสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจโลกและชาติผู้บริโภคพลังงานรายใหญ่

ข้อมูลของจีนระบุว่ากิจกรรมการผลิตภายในประเทศประจำเดือนธันวาคมหดตัวเป็นเดือนที่สองติดต่อกัน ขณะที่การลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศในเดือนพฤศจิกายนก็ตกลงเป็นครั้งแรกในรอบ 28 เดือน

ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯวานนี้(15) ปิดบวกเล็กน้อย หลังข้อมูลอันน่าประทับใจของตลาดแรงงาน กิจกรรมอุตสาหกรรมและการค้าภายในประเทศ ช่วยสร้างความหวังแก่นักลงทุน อย่างไรก็ตามวอลล์สตรีทก็มิอาจพุ่งไปข้างหน้าเนื่องจากตลาดยังคงมีความกังวลต่อวิกฤตหนี้ยูโรโซนอยู่

ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 46.54 จุด (0.39 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 11,870.02 แนสแดค เพิ่มขึ้น 1.70 จุด (0.07 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 2,541.01 เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 4.01 จุด (0.33 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 1,215.83

ความเคลื่อนไหวในทางบวกของวอลล์สตรีทมีขึ้นจากรายงานของรัฐบาลที่ระบุว่ายอดผู้เข้ารับสิทธิประโยชน์คนว่างงานเมื่อสัปดาห์ที่แล้วลดลงต่ำสุดในรอบ 3 ปี บ่งชี้ว่าอัตราการปลดคนงานเริ่มชะลอตัวลง ขณะที่ตัวเลขกิจกรรมอุตสาหกรรมและการค้าภายในประเทศก็ดีขึ้นเนื่องจากนักลงทุนรู้สึกเชื่อมั่นมากขึ้นนั่นเอง