เอเอฟพี - ราคาน้ำมันนิวยอร์กดิ่งแรงกว่า 5 ดอลลาร์เมื่อวันพุธ(14) เหตุวิกฤตหนี้ยูโรโซนหวนกลับมาปกคลุมตลาดอีกครั้งขณะที่โอเปกก็คงกำลังผลิตต่อไป ด้านวอลล์สตรีทก็ขยับลงแรง หลังนักลงทุนมีความกังวลต่อความแตกแยกของอียูต่อข้อตกลงวินัยการรคลัง
สัญญาล่วงหน้าน้ำมันดิบชนิดไลต์สวีตครูดของสหรัฐฯ งวดส่งมอบเดือนมกราคม ลดลง 5.19 ดอลลาร์ ปิดที่ 94.95 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกัน ลดลง 4.48 ดอลลาร์ ปิดที่ 105.02 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ราคาน้ำมันขยับลงหลังจากยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์ต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 11 มกราคม อยู่ที่ 1.30 ดอลลาร์ต่อยูโร จากสัญญาณต่างๆที่แสดงถึงความเปราะบางของบทบัญญัติทางการคลังฉบับใหม่ที่ผ่านความเห็นชอบจากที่ประชุมอียูเมื่อปลายสัปดาห์ที่แล้ว
ขณะที่อีกปัจจัยหนึ่งที่ฉุดให้ราคาน้ำมันดิ่งลงแรงคือผลประชุมของชาติสมาชิกกลุ่มโอเปกในกรุงเวียนนา ซึ่งเห็นชอบคงกำลังผลิตไว้ตามเดิมวันอ้างถึงแนวโน้มอุปสงค์ทางพลังงานที่ไม่แน่นอน รวมถึงเวลานี้ทางกลุ่มก็ผลิตน้ำมันเกินกว่าโควตาที่กำหนดไว้อยู่แล้ว
นอกจากอิรักที่ยังไม่มีการกำหนดโควตาในตอนนี้ พบว่าการผลิตน้ำมันของโอเปกในเดือนพฤศจิกายน สูงกว่าข้อกำหนดการผลิตของทางกลุ่ม 24.8 ล้านบาร์เรลต่อวัน อยู่ถึงร้อยละ 11 หรือมากกว่า 3 ล้านบาร์เรลเลยทีเดียว
ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯวานนี้(14) ก็ดิ่งลงแรง จากความกังวลต่อข้อตกลงวินัยการคลังอันเปราะบางของอียูและดอกเบี้ยพันธบัตรใหม่ของรัฐบาลอิตาลีแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์
ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ ลดลง 131.39 จุด (1.10 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 11,823.55 แนสแดค ลดลง 39.96 จุด (1.55 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 2,539.31 เอสแอนด์พี ลดลง 13.91 จุด (1.13 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 1,211.82
