กองทัพอิหร่านเคลื่อนอาวุธ-มิสไซล์ พร้อมรับมือสหรัฐฯ-อิสราเอล

เทเลกราฟ - กองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติอิหร่านสั่งเคลื่อนขีปนาวุธประจำการทั่วประเทศ เตรียมพร้อมรับมือการรุกรานจากศัตรู ท่ามกลางสัญญาณเตือนว่าชาติตะวันตกอาจดำเนินมาตรการโดยตรง เพื่อยับยั้งโครงการพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ของกรุงเตหะราน

พล.อ.มูฮัมเหม็ด อาลี จาฟารี ผู้บัญชาการกองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติอิหร่าน มีคำสั่งยกระดับความพร้อมของกองทัพ เริ่มแผนป้องกันประเทศจากการโจมตีครั้งใหญ่ และการลอบเล่นงานลับหลัง

เจ้าหน้าที่หน่วยข่าวกรองตะวันตกเปิดเผยว่า อิหร่านได้กระจายขีปนาวุธพิสัยไกล ระเบิดพลังทำลายล้างสูง เครื่องกระสุน และยุทโธปกรณ์ต่างๆ ไปยังจุดยุทธศาสตร์สำคัญของประเทศ

การเคลื่อนไหวครั้งนี้เป็นเสมือนการตอบโต้ต่อแรงกดดันจากชาติตะวันตกที่ทวีความเข้มข้นยิ่งขึ้น ในประเด็นเกี่ยวกับโครงการพัฒนาพลังงานนิวเคลียร์เพื่อสันติ ซึ่งอิหร่านถูกกล่าวหาใช้เป็นฉากหน้าลอบพัฒนาอาวุธ เรื่องทวีดุเดือดยิ่งขึ้น หลังจากทบวงการพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศ (ไอเออีเอ) เปิดเผยรายงานหลักฐาน ณ กรุงเวียนนา ว่านักวิทยาศาสตร์อิหร่านกำลังพัฒนาให้มิสไซล์สามารถบรรจุหัวรบนิวเคลียร์ได้

จากรายงานฉบับดังกล่าว ผู้นำอิหร่านเกรงว่าประเทศจะตกเป็นเป้าหมายการโจมตีของหน่วยข่าวกรองและหน่วยความมั่นคงตะวันตกที่ต้องการทำลายโครงสร้างพื้นฐานสำคัญในการพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเกิดเหตุรุนแรงระเบิดหลายครั้งในช่วงที่ผ่านมา เหล่าผู้นำต่างหวาดวิตกว่าสหรัฐฯ หรืออิสราเอลอาจอยู่เบื้องหลัง

วันที่ 12 พฤศจิกายน เกิดเหตุระเบิดที่โรงงานทดสอบมิสไซล์ในเมืองบิดกาเนห์ (Bidganeh) ซึ่งห่างจากกรุงเตหะรานเพียง 30 กิโลเมตร ทหารอิหร่านเสียชีวิต 17 นาย รวมถึง พล.อ.ฮัสซาน เตห์รานี มูกอดดัม หัวหน้าทีมพัฒนามิสไซล์คนสำคัญของอิหร่าน หลังจากนั้น สัปดาห์ที่ผ่านมาก็เกิดเหตุระเบิดปริศนาอีกครั้งในเมืองอิสฟาฮัน (Isfahan) ซึ่งมีโรงงานยูเรเนียมเสียหาย

ทั้งนี้ อยาโตลเลาะห์ อาลี คาเมเนอี ผู้นำสูงสุดของอิหร่าน ออกคำสั่งให้หัวหน้านายกอง หน่วยข่าวกรอง และองค์กรความมั่นคงดำเนินทุกมาตรการที่จำเป็นในการปกป้องประเทศ

พล.อ.จาฟารีตอบรับคำสั่งของผู้นำสูงสุดทันทีด้วยการจัดส่ง “ชาฮับ” มิสไซล์พิสัยไกล ไปยังสถานที่ลับทั่วประเทศ เพื่อให้ปลอดภัยจากการถูกโจมตี และสามารถใช้ตอบโต้ข้าศึกได้ทันท่วงที นอกจากนี้ กองทัพอากาศอิหร่านได้จัดตั้ง “หน่วยตอบโต้เร็ว” จำนวนมาก ซึ่งมีการซ้อมภารกิจพิเศษโต้กลับการโจมตีทางอากาศ

เจ้าหน้าที่หน่วยข่าวกรองตะวันตกอีกรายหนึ่งเปิดเผยกับสื่อว่า “ผู้นำระดับสูงของอิหร่านกังวลอย่างยิ่งว่า ประเทศอาจตกเป็นเป้าหมายของโจมตีโดยไม่ทันตั้งตัวจากอิสราเอล หรือไม่ก็สหรัฐฯ”

“เพราะฉะนั้น อิหร่านจึงต้องดำเนินมาตรการที่จำเป็นทุกอย่างเพื่อปกป้องตนเอง”