เอเอฟพี - เจ้าหน้าที่อิสราเอล แสดงความเป็นห่วงสายสัมพันธ์กับกรุงไคโรในอนาคต หลังพรรคอิสลามิสต์ได้ชัยชนะอย่างถล่มทลายในการเลือกตั้งอียิปต์ ซึ่งมีขึ้นเป็นครั้งแรกหลังการปฏิวัติโค่นล้มอดีตประธานาธิบดี ฮอสนี มูบารัค
“เรารู้สึกกังวลมาก ส่วนตัวผมเองหวังว่าประชาธิปไตยจะเบ่งบานในอียิปต์ และประเทศดังกล่าวจะไม่กลายเป็นรัฐอิสลามสุดโต่ง ซึ่งจะเป็นอันตรายต่อทั้งภูมิภาค” ยูวัล สเตนิตส์ รัฐมนตรีกระทรวงการคลังอิสราเอล ให้สัมภาษณ์ผ่านสถานีวิทยุ
ผลการเลือกตั้งขั้นต้นของอียิปต์ซึ่งประกาศอย่างเป็นทางการวานนี้(4) ปรากฎว่ากลุ่มอิสลามิสต์ได้ครองเสียงส่วนใหญ่ถึง 65 เปอร์เซ็นต์ โดยพรรค ฟรีดอม แอนด์ จัสติส ของกลุ่มภราดรภาพมุสลิม (Muslim Brotherhood) ได้คะแนนนำอันดับ 1 ส่วนกลุ่มซาลาฟิสต์ซึ่งเป็นอิสลามิสต์สายสุดโต่ง ก็ได้คะแนนเสียงมากเป็นประวัติการณ์ถึง 25 เปอร์เซ็นต์
ปฏิกิริยาของสื่ออิสราเอลเป็นไปในทางลบอย่างชัดเจน โดยเจ้าหน้าที่ความมั่นคงรายหนึ่งให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์ เยเดียต อะฮาโรน็อต ว่า “มันเลวร้ายยิ่งกว่าที่คาดการณ์ไว้” ขณะที่สื่อดังกล่าววิจารณ์ผลการเลือกตั้งอียิปต์ว่า “สิ่งที่เคยเป็นเพียงอันตรายได้กลายเป็นภัยคุกคามแล้ว”
เจ้าหน้าที่รัฐบาลอิสราเอลให้สัมภาษณ์กับ เอเอฟพี ว่า ผลการเลือกตั้งในอียิปต์เป็นเครื่องพิสูจน์ความชอบธรรมของอิสราเอลที่เลือกใช้นโยบายตอบสนองการปฏิวัติในโลกอาหรับอย่างระมัดระวัง และชัยชนะของผู้สมัครอิสลามิสต์ในอียิปต์ ซึ่งบางรายประกาศจุดยืนต่อต้านอิสราเอลอย่างชัดแจ้ง ก็แสดงให้เห็นแล้วว่า คำกล่าวของ ลีออน เพเนตตา รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯ ซึ่งระบุว่าการที่อิสราเอลถูกโดดเดี่ยวเป็นผลจากการกระทำของอิสราเอลเองนั้น เป็นแนวคิดที่ไร้เดียงสา
เพเนตตา กล่าวเมื่อวันศุกร์ (2) ว่า อิสราเอลควรพยายามฟื้นฟูสายสัมพันธ์กับอดีตพันธมิตรอย่างตุรกี และ “ออกมาร่วมโต๊ะเจรจา” สันติภาพกับปาเลสไตน์
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่อิสราเอลออกมาตอบโต้ว่า “ใครที่มองว่าอิสราเอลถูกโดดเดี่ยวเพราะไม่ยอมเจรจากับปาเลสไตน์ ถือว่าขาดวิสัยทัศน์”
“ต่อให้มีการเจรจากับปาเลสไตน์ ก็ไม่ช่วยขจัดความเป็นศัตรูและความเกลียดชังที่อิสลามิสต์และซาลาฟิสต์มีต่อเราได้”
ท่ามกลางกระแสความกังวล อิสราเอลยังคงเชื่อว่า สนธิสัญญาสันติภาพกับอียิปต์เมื่อปี 1979จะไม่ได้รับผลกระทบ โดยนายกรัฐมนตรี เบนจามิน เนทันยาฮู กล่าวว่า สนธิสัญญาดังกล่าวยังคงเป็นประโยชน์ต่ออียิปต์และประเทศเพื่อนบ้าน
“เราหวังว่า รัฐบาลฝ่ายใดก็ตามที่จัดตั้งขึ้นในอียิปต์จะตระหนักถึงความสำคัญของสนธิสัญญาสันติภาพกับอิสราเอล ในฐานะที่มีคุณค่าในตัวมันเอง และเป็นรากฐานของเสถียรภาพทางการเงินและความมั่นคงในภูมิภาค” เนทันยาฮู กล่าววานนี้ (4)
อิสราเอล ยังคาดว่า สหรัฐฯจะไม่ประกาศคว่ำบาตรและงดความช่วยเหลือต่อกรุงไคโร แม้รัฐบาลใหม่จะมาจากพรรคอิสลามิสต์ก็ตาม
“ชาวอียิปต์ต้องการความเปลี่ยนแปลง หากสหรัฐฯหยุดมอบความช่วยเหลือ อียิปต์ก็จะหันไปหาแหล่งรายได้อื่นๆ แทน เช่น ขึ้นอัตราค่าผ่านทางสำหรับเรือสินค้าที่แล่นผ่านคลองสุเอซ เป็นต้น” ยิตซัก เลวานอน ทูตอิสราเอลประจำกรุงไคโร ระบุ
เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา (3) เอทัด บารัก รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมอิสราเอล กล่าวว่า ผลการเลือกตั้งในอียิปต์เป็นสิ่งที่ “น่ากังวลอย่างยิ่ง” ทว่า “ยังเร็วเกินไปที่จะระบุว่า ความเปลี่ยนแปลงจะส่งผลกระทบต่อทั้งภูมิภาคอย่างไรบ้าง”
อย่างไรก็ตาม ขบวนการฮามาส ซึ่งเป็นกลุ่มอิสลามิสต์ในปาเลสไตน์ที่แยกตัวจากกลุ่มภราดรภาพมุสลิม ออกมาแสดงความชื่นชมผลการเลือกตั้งขั้นต้นในอียิปต์ โดย เฟาซี บาร์ฮุม โฆษกฮามาส ระบุว่า “นี่คือ ผลการเลือกตั้งที่ดีมาก และหมายความว่า กิจการของปาเลสไตน์จะได้รับการสนับสนุนมากขึ้นด้วย... ความสัมพันธ์ระหว่างรัฐบาลชุดใหม่ของอียิปต์กับปาเลสไตน์จะต้องดีอย่างยิ่ง”