เอเอฟพี/เอเจนซี - ราคาน้ำมันปิดบวกวานนี้(2) จากความกังวลทางภูมิรัฐศาสตร์ต่อปัญหาความตึงเครียดในอิหร่าน ขณะที่วอลล์สตรีท ปิดบวกน้อยอย่างน่าผิดหวังแม้ข้อมูลรัฐบาลสหรัฐฯเผยว่าอัตราคนว่างงานของประเทศลดลงต่ำสุดในรอบ 32 เดือน
สัญญาล่วงหน้าน้ำมันดิบชนิดไลต์สวีตครูดของสหรัฐฯ งวดส่งมอบเดือนมกราคม เพิ่มขึ้น 76 เซนต์ ปิดที่ 100.96 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกัน เพิ่มขึ้น 95 เซนต์ ปิดที่ 109.94 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ความเคลื่อนไหวในทางบวกของราคาน้ำมันมีขึ้นหลังจากอียูและสหรัฐฯออกมาตรการคว่ำบาตรอิหร่านเพิ่มเติมต่อโครงการนิวเคลียร์ของเตหะรานเมื่อวันพฤหัสบดี(1) เพิ่มความกังวลถึงความเป็นไปได้เกี่ยวกับความยุ่งเหยิงต่อกระบวนการส่งออกพลังงานจากชาติผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่ที่สุดอันดับ 2 ของโอเปก
ทั้งนี้ความตึงเครียดระหว่างอิหร่านและชาติตะวันตกพุ่งสูงขึ้นไปอีก หลังผู้ชุมนุมชาวอิหร่านบุกเข้าไปยังเขตพื้นที่ของสถานทูตอังกฤษประจำกรุงเตหะรานเมื่อช่วงกลางสัปดาห์ หลังไม่พอใจที่ถูกอังกฤษคว่ำบาตรเพิ่มเติม ส่วนลอนดอนก็ตอบโต้ด้วยการขับทูตออกนอกประเทศ แม้ผู้นำทางทางศาสนารายหนึ่งของอิหร่านเตือนรัฐบาลอังกฤษให้คำนึงถึงปฏิกิริยาสะท้อน และเรียกร้องให้ประเทศอื่นๆ ในสหภาพยุโรป “อย่า” ดำเนินรอยตามอังกฤษ
ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯวานนี้(2) ทรงตัว หลังข้อมูลภาคแรงงานอันสดใสของอเมริกา ถูกฉุดรั้งไว้โดยความกังวลว่ายุโรปอาจไม่มีความสามารถเพียงพอที่จะจัดการกับวิกฤตหนี้ที่กำลังลุกลามได้
ความเคลื่อนไหวนี้เองส่งผลให้ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 1.97 จุด (0.02 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 12,018.06 แนสแดค เพิ่มขึ้น 0.73 จุด (0.03 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 2,626.93 เอสแอนด์พี ลดลง 0.34 จุด (0.03 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 1,244.24
ตลาดไม่คึกคักอย่างที่คาดหมาย แม้กระทรวงแรงงานสหรัฐฯเผยว่าตัวเลขคนว่างงานเดือนพฤศจิกายน ลดลงเหลือร้อยละ 8.6 ลดต่ำที่สุดในรอบ 32 เดือน สร้างความประหลาดใจแก่นักลงทุนเป็นอย่างมาก เนื่องจากหลายคนคาดหมายว่าตัวเลขคนว่างงานน่าจะทรงตัวอยู่ที่ร้อยละ 9.0 สองเดือนติด
นักวิเคราะห์ชี้ถึงสาเหตุที่ตลาดไม่พุ่งทะยานไปข้างหน้าว่า "บางทีนักลงทุนอาจชะลอการลงทุนเพื่อจับตาไปที่ผลการประชุมของสหภาพยุโรปในประเด็นวิกฤตหนี้ยูโรโซนในช่วงปลายสัปดาห์นี้"
