เอเอฟพี/เอเจนซี - ราคาน้ำมันโลกวานนี้(29) ขยับขึ้นอย่างแรง หลังเกิดเหตุผู้ประท้วงบุกเข้าสถานทูตอังกฤษประจำกรุงเตหะราน ต่อเติมความตึงเครียดระหว่างตะวันตกกับอิหร่าน ชาติผู้ส่งออกพลังงานรายใหญ่ของโลก ขณะที่วอลล์สตรีท ปิดบวกเล็กน้อย จากข้อมูลความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่ดีเกินคาดหมายในสหรัฐฯ
สัญญาล่วงหน้าน้ำมันดิบชนิดไลต์สวีตครูดของสหรัฐฯ งวดส่งมอบเดือนมกราคม เพิ่มขึ้น 1.58 ดอลลาร์ ปิดที่ 99.62 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกัน เพิ่มขึ้น 1.82 ดอลลาร์ ปิดที่ 110.82 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ตลาดน้ำมันพุ่งขึ้นอย่างแรงหลังเกิดเหตุการณ์ผู้ประท้วงชาวอิหร่านบุกเข้าไปยังสถานทูตและเขตการทูตอีกแห่งของอังกฤษในเตหะรานเมื่อวันอังคาร(29) ความตึงเครียดรอบใหม่ที่มีชนวนเหตุจากกรณีอังกฤษเพิ่มมาตรการคว่ำบาตรอิหร่านหนักหน่วงขึ้นเพื่อกดดันให้ล้มเลิกโครงการนิวเคลียร์
ขณะเดียวกันก็คาดหมายว่ารัฐมนตรีต่างประเทศอียูจะเปิดเผยมาตรการคว่ำบาตรรอบใหม่ต่ออิหร่านในวันพฤหัสบดีนี้(1ธ.ค.) ด้วยฝรั่งเศสกำลังล็อบบีให้ชาติสมาชิกออกมาตรการคว่ำบาตรห้ามนนำเข้าน้ำมันจากอิหร่าน ชาติผู้ส่งออกพลังงานรายใหญ่ที่สุดอันดับ 2 ของโอเปก
นอกจากนี้แล้วราคาน้ำมันยังได้แรงหนุนจากข้อมูลรัฐบาลสหรัฐฯที่เผยว่าดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคดีดตัวกลับขึ้นมาในเดือนพฤศจิกายน
ปัจจัยด้านความเชื่อมั่นผู้บริโภคนี้ประกอบกับคาดหวังต่อความคืบหน้าในกระบวนการหาแนวทางแก้ไขวิกฤตหนี้ของเหล่าผู้นำยุโรปของนักลงทุน ก็ช่วยดันให้คลาดหุ้นสหรัฐฯวานนี้(29) ปิดบวกในกรอบแคบๆ
ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 32.62 จุด (0.28 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 11,555.63 แนสแดค ลดลง 11.83 จุด (0.47 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 2,515.51 เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 2.64 จุด (0.22 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 1,195.19