บีบีซีนิวส์ - อดีตกบฏลิเบียควบคุมตัวนักโทษประมาณ 7,000 คน อยู่ในมือ โดยไม่ผ่านกระบวนการทางกฎหมาย องค์การสหประชาชาติรายงาน
นักโทษกลุ่มนี้ถูกขังลืม ขณะที่ลิเบียยังไม่มีหน่วยงานทั้งตำรวจและศาลที่พร้อมปฏิบัติหน้าที่ และมีรายงานระบุว่า กลุ่มอดีตกบฏได้ทรมานเหล่านักโทษซึ่งครั้งหนึ่งเคยเป็นสมุนของมูอัมมาร์ กัดดาฟี
รายงานของยูเอ็น ระบุว่า นักโทษจำนวนมากเป็นชาวแอฟริกาจากดินแดนซับ-ซาฮารา ผู้ถูกกล่าวหาเป็นทหารรับจ้างในระบอบของกัดดาฟี
อย่างไรก็ตาม รัฐบาลใหม่ลิเบียให้การตอบรับที่ดี เมื่อมีเสียงเรียกร้องให้เร่งแก้ปัญหาดังกล่าว ยูเอ็นรายงาน
นักข่าวบีบีซีในนครนิวยอร์ก ที่ตั้งสำนักงานใหญ่ของยูเอ็น เปิดเผยว่า รายงานฉบับนี้เป็นการประเมินสถานการณ์ของยูเอ็นต่อลิเบียครั้งแรก ตั้งแต่สิ้นสุดสงครามกลางเมือง โดยประเมินว่า มีนักโทษประมาณ 7,000 คน ถูกจับกุมอยู่ในเรือนจำ สถานกักกันชั่วคราว ซึ่งส่วนใหญ่อยู่ภายใต้การควบคุมของกองกำลังปฏิวัติที่มีส่วนร่วมก่อการกบฏ โค่นบัลลังก์ของมูอัมมาร์ กัดดาฟี
“ขณะ (สภาถ่ายโอนอำนาจแห่งชาติลิเบีย) กำลังโอนความรับผิดชอบในการคุมตัวนักโทษ จากกองกำลังนักรบสู่หน่วยงานของรัฐที่เหมาะสม มีงานหนักอีกมากที่ต้องจัดระเบียบเรือนจำ เพื่อป้องกันการละเมิดสิทธิ และนำมาซึ่งมาปล่อยตัวผู้ที่ไม่สมควรถูกกักขัง” รายงานของยูเอ็น ระบุ
นอกจากนี้ บันคีมูน เลขาธิการยูเอ็น กล่าวความเห็นเสริมจากรายงาน ว่า “ผมเชื่อว่า ผู้นำลิเบียใหม่มีเจตจำนงที่จะสร้างสังคมบนพื้นฐานของการเคารพสิทธิมนุษยชน … เรื่องนี้จำเป็นต้องดำเนินการให้ลุล่วงโดยเร็วที่สุด อย่างไรก็ตาม การห้ามปรามการคุมตัวนักโทษตามอำเภอใจ การป้องกันการละเมิด และการเลือกปฏิบัติต่อพลเมืองชั้นสาม รวมถึงพลเรือนกลุ่มต่างๆ ของลิเบียเอง เป็นงานที่หนักหนาสาหัส”
อีกด้านหนึ่ง เอียน มาร์ติน ทูตพิเศษยูเอ็นในลิเบีย ให้สัมภาษณ์กับบีบีซีไว้ว่า รัฐบาลรักษาการของลิเบียมีงานใหญ่ 3 ประการ ที่ต้องเร่งดำเนินการ ได้แก่ การปลดอาวุธนักรบปฏิวัติที่กำลังทำตัวอยู่เหนือกฎหมาย การพิทักษ์คลังอาวุธที่ยึดมาจากมูอัมมาร์ กัดดาฟี และการสร้างกระบวนการเลือกตั้งให้พร้อมจัดเลือกตั้ง ภายในเดือนมิถุนายน 2012