เอเจนซี - ตำรวจฟิลิปปินส์เผยวันนี้ (23) เกิดเหตุระเบิดใกล้อนุสรณ์สถานเหยื่อสังหารหมู่ 57 ศพ ซึ่งเป็นเหตุความรุนแรงที่เกี่ยวโยงกับการเลือกตั้งครั้งเลวร้ายที่สุดของประเทศ เพียงไม่กี่ชั่วโมงก่อนการรวมตัวกันเพื่อระลึกถึงการโจมตีดังกล่าวเมื่อ 2 ปีก่อน
มาร์เซโล ปินแทค ผู้บังคับการตำรวจประจำจังหวัดมากินดาเนา เผยว่า เหตุระเบิดครั้งนี้น่าจะมีเป้าหมาย เพื่อก่อกวนให้ผู้คนหวาดกลัวไม่กล้าไปร่วมงานรำลึกถึงเหตุการณ์ซุ่มโจมตีขบวนหาเสียงเลือกตั้งเมื่อ 23 พฤศจิกายน ปี 2009
ปินแทค ระบุว่า ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บจากการระเบิดครั้งนี้ และแรงระเบิดก็สร้างความเสียหายเพียงเล็กน้อย
เขาเสริมว่า พบระเบิดอีก 2 ลูก ลูกหนึ่งทำด้วยกระสุนปืนใหญ่ และอีกลูกเป็นระเบิดปืนครก ถูกทิ้งไว้ใกล้กับจุดเกิดเหตุสังหารหมู่ในเมืองอัมปาตวน ทางตอนใต้ของประเทศ ซึ่งสามารถพบเห็นได้อย่างง่ายดาย
หนึ่งในจำนวนผู้เข้าร่วมพิธีไว้อาลัย คือ เอสมาเอล มันกูดาดาตู ผู้ว่าราชการจังหวัด ซึ่งสูญเสียภรรยา และญาติพี่น้องอีกหลายคนไปในการดักซุ่มโจมตีครั้งนั้น ที่สื่อมวลชนถึง 33 รายก็ถูกสังหารในคราวเดียวกัน
ทั้งนี้ ขบวนหาเสียงดังกล่าวกำลังเดินทางไปเป็นพยานให้กับภรรยาของมันกูดาดาตู ที่จะยื่นเอกสารลงสมัครสำหรับการเลือกตั้งเดือนพฤษภาคม ปี 2010 ขณะที่กลุ่มมือปืนซุ่มยิงถล่ม เหยื่อหลายคนถูกลากไปบนถนนก่อนยิงทิ้ง และฝังในหลุม ที่มีศพทับถมกัน บางรายก็ตายคาที่อยู่ในรถ
สำหรับมันกูดาดาตูนั้นเป็นฝ่ายตรงข้ามกับตระกูลอัมปาตวน ผู้ทรงอิทธิพลทางการเมืองประจำจังหวัด
หลังเหตุรุนแรงดังกล่าว รัฐบาลได้ตั้งข้อหา 196 คน ซึ่งรวมถึงอันดาล อัมปาตวน อดีตผู้ว่าฯ และลูกชาย 4 คน ในคดีนี้มีผู้ถูกจับกุมประมาณ 80 ราย แต่มีเพียง 64 คนเท่านั้นที่ถูกนำตัวขึ้นพิจารณาคดีในศาล และหนึ่งในนั้นคือ อันดาล อันเซย์ อัมปาตวน ผู้ต้องสงสัยคนสำคัญ
ส่วนตระกูลอัมปาตวนนั้น ปกครองจังหวัดมากินดาเนามาเกือบ 10 ปี และเป็นผู้สนับสนุนอดีตประธานาธิบดีกลอเรีย มากาปากัล อาร์โรโย
ในวันศุกร์ (18) ที่ผ่านมา อาร์โรโย และ อันดาล อัมปาตวน ถูกตั้งข้อหาบ่อนทำลายการเลือกตั้ง โดยมีส่วนพัวพันกับการโกงเลือกตั้งสมาชิกวุฒิสภาเมื่อปี 2007 เพื่อให้พันธมิตรของอาร์โรโยชนะเลือกตั้ง ซึ่งทั้งสองคนปฏิเสธ
อาร์โรโย ผู้เคยดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีของฟิลิปปินส์ ถึง 2 สมัย ตั้งแต่ปี 2001-2010 ถูกจับคาเตียงผู้ป่วยในโรงพยาบาลเมื่อวันศุกร์ ด้วยข้อหาโกงการเลือกตั้งหลายกระทงด้วยกัน