เอเอฟพี/เอเจนซี - คณะรัฐมนตรีอียิปต์ ยื่นใบลาออกเมื่อวันจันทร์ (21) ตามหลังเหตุปะทะวันที่ 3 ระหว่างเจ้าหน้าที่ความมั่นคง และผู้ประท้วงที่เรียกร้องเปลี่ยนถ่ายประชาธิปไตย อันส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตหลายสิบคนและได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก
โมฮัมเมด ฮาเกซี โฆษกรัฐบาลอ่านถ้อยแถลงผ่านสำนักข่าวมีนา ระบุว่า “รัฐบาลของนายกรัฐมนตรี อัสซาม ชาราฟ ยื่นใบลาออกต่อ (คณะผู้ปกครอง) สภาทหารสูงสุดแล้ว แต่เนื่องด้วยกรณีแวดล้อมอันยากลำบากที่ประเทศกำลังเผชิญ รัฐบาลจะยังคงทำงานต่อไปจนว่าใบลาออกจะได้รับการอนุมัติ”
“รัฐบาลมีความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อเหตุการณ์อันน่าเจ็บปวดนี้ และจากเหตุการณ์เหล่านี้รัฐบาลจึงได้ยื่นใบลาออกต่อสภาทหารสูงสุด (SCAF) เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา” เขากล่าว
ทั้งนี้ การลาออกของ ชาราฟ ในกรณีที่ได้รับการตอบรับอาจเป็นภัยคุกคามต่อศึกเลือกตั้งทั่วไปที่กำหนดไว้ในวันที่ 28 พฤศจิกายนนี้ ศึกเลือกตั้งครั้งแรกนับตั้งแต่การปฏิวัติโค่นล้มประธานาธิบดี ฮอสนี มูบารัค ในเดือนกัมภาพันธ์ อย่างไรก็ตาม มีสื่อมวลชนบางสำนักรายงานว่า ทางคณะผู้ปกครองทหารปฏิเสธใบลาออกดังกล่าว ทว่าก็ยังไม่สามารถยืนยันได้อย่างชัดเจน
สำนักข่าวรอยเตอร์ อ้างแหล่งข่าวทางทหารบอกว่าสภาทหารสูงสุด หวังค้นหานายกรัฐมนตรีคนใหม่ให้ได้เสียก่อนถึงจะตอบรับการลาออกของชาราฟ พร้อมบอกต่อว่าจะยังไม่มีการแถลงอย่างเป็นทางการใดๆ จนกว่าสภาทหารสูงสุดสามารถบรรลุข้อตกลงได้ตัวผู้นำคนใหม่แล้วเท่านั้น
ชาราฟ ได้รับการแต่งตั้งในเดือนมีนาคมด้วยแรงสนับสนุนอย่างกว้างขวาง แต่ไม่นานผู้ชุมนุมกลุ่มเดียวกันกับที่เคยรวมตัวกัน ณ จัตุรัสตอห์รีร์ ร่วมเฉลิมฉลองการเข้ารับตำแหน่งของเขา เวลานี้ได้แปรเปลี่ยนเป็นความไม่พอใจต่อความอ่อนแอของเขาที่ไม่กล้าเผชิญหน้ากับสภาทหารสูงสุด
ทั้งนี้ เขาเคยเพิกเฉยต่อเสียงเรียกร้องให้ลาออกจากตำแหน่งมาหลายเดือน โดยบอกว่าแม้การลาออกอาจทำให้เขากลายเป็นวีรบุรุษของชาติ แต่เขาขอเลือกอยู่ในตำแหน่งต่อไปเพื่อเติมเต็มเป้าหมายของการปฏิวัติ
อย่างไรก็ตาม 10 เดือนหลังการขับไล่ มูบารัค การประท้วงตำหนิรัฐบาลของชารีฟว่าหวงแหนอำนาจได้แปรเปลี่ยนเป็นความรุนแรง และเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาต่อเนื่องจนถึงวันจันทร์(21) เกิดเหตุปะทะกันระหว่างเจ้าหน้าที่ความมั่นคงและกลุ่มผู้ชุมนุมยุติการปกครองโดยทหาร จนส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 24 รายและบาดเจ็บจำนวนมาก