เอเอฟพี - เหตุความรุนแรงปะทุขึ้นในมัลดีฟส์เมื่อวันพุธ (8) หลังผู้สนับสนุนอดีตประธานาธิบดีที่อ้างว่าถูกรัฐประหารเงียบ ได้ปะทะกับเจ้าหน้าที่ความมั่นคงที่กรุงมาเล และบุกรุกสถานีตำรวจและเผาทำลายอาคารราชการหลายแห่งบนเกาะแห่งนี้
เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นเปิดเผยกับเอเอฟพีว่า เหตุบุกรุกสถานีตำรวจและจุดไฟเผาอาคารราชการมีขึ้นตามหลังเหตุปะทะกันระหว่างผู้ประท้วงกับหน่วยความมั่นคงในเมืองหลวง หลังเจ้าหน้าที่ได้ยิงแก๊สน้ำตาและตะบองเข้าสลายการชุมนุมของประชาชนหลายพันคนที่รวมตัวกัน ณ จัตุรัสแห่งหนึ่ง ขณะที่ผู้ประท้วงก็ตอบโต้ด้วยก้อนหินและท่อนไม้
เหตุการณ์ครั้งนี้นับเป็นเหตุความไม่สงบครั้งเลวร้ายที่สุดของมัลดีฟส์ นับตั้งแต่เหตุปะทะเมื่อปี 2003 ตามหลังการตายคามือของเจ้าหน้าที่ความมั่นคงของผู้ถูกกักกันรายหนึ่งที่จุดชนวนนำมาซึ่งกระบวนการเปลี่ยนแปลงการปกครองสู่ระบอบประชาธิปไตย
โมฮาเหม็ด นาซีด ประธานาธิบดีที่มาจากการเลือกตั้งคนแรกของประเทศซึ่งแถลงลาออกเมื่อวันอังคาร (7) บอกกับเอเอฟพีว่าเขาสงสัยว่านายโมฮาเหม็ด วาฮีด ผู้นำคนใหม่มีส่วนรู้เห็นต่อแผนโค่นล้มเขาที่เกี่ยวพันกับเจ้าหน้าที่ทหารและตำรวจหัวดื้อ
“ผมเกรงว่าเขาคิดจะก้าวขึ้นเป็นประธานาธิบดีมาตลอด เมื่อโอกาสเปิด เขาก็คว้ามันทันที” อดีตประธานาธิบดีวัย 44 ปี พูดพาดพิงถึงอดีตรองประธานาธิบดีที่มาจากคนละพรรค ขณะที่ทาง วาฮีด ปฏิเสธคำกล่าวหานี้
นาซีด ได้เล่าถึงเหตุการณ์ที่ถูกตำรวจและทหารบังคับให้ลงจากตำแหน่ง หลังเดินทางไปพบพวกเขา ณ ศูนย์บัญชาการกองทัพในวันอังคาร (7) “พวกเขาบอกผมว่า หากผมไม่ลาออก พวกเขาจะหันไปใช้อาวุธ” เขากล่าว “ผมถือว่านั่นเป็นคำขู่ ผมต้องการเจรจาต่อรองชีวิตของผู้คนที่รัฐใช้รัฐบาลของผม”
ทั้งนี้ นาซีดได้ไปร่วมชุมนุมในเมืองหลวงเมื่อวันพุธ (8) ด้วย โดยที่เขาและสมาชิกระดับอาวุโสคนอื่นๆของพรรคมัลดิเวียน เดโมแครต ปาร์ตี (เอ็มดีพี) ต่างก็ได้รับบาดเจ็บจากเหตุปะทะ ซึ่งทางครอบครัวของอดีตผู้นำรายนี้อ้างว่าเขาถูกตำรวจทุบตีทำร้าย จากนั้นในเวลาต่อมา นาซีด ได้กล่าวปราศรัยต่อลูกพรรคเรียกร้องนาย วาฮีด ลาออกจากตำแหน่ง
หลังจากเหตุปะทะในกรุงมาเล หลักฐานก็ปรากฏว่าเหตุความไม่สงบนั้นได้ลุกลามไปในหลายเขตทั่วเกาะแห่งนี้ โดยเฉพาะเขตที่เป็นฐานเสียงของพรรคเอ็มดีพี ทางเหนือและใต้สุดของประเทศ
นายกเทศมนตรีเขตอัดดูบอกว่า ผู้ประท้วงได้บุกรุกเข้าไปในสถานีตำรวจแห่งหนึ่ง เหตุการณ์ที่ต่อมาก็เกิดซ้ำรอยกับสถานีตำรวจบนเกาะต่างๆอีกอย่างน้อย 3 แห่ง อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตัดสินใจยอมจำนนโดยไม่มีเหตุรุนแรงใดๆ
ด้าน โมอาเหม็ด ชารีฟ เจ้าหน้าที่ตำรวจของเกาะ Thinadhoo บอกกับเอเอฟพีว่าฝูงม็อบราว 1,000 คน บุกขับไล่ตำรวจออกจากสถานีและจุดไฟเผาอาคารศาลกับสำนักงานสภาเขต
นายวาฮีด เข้าสาบานตนเมื่อวันอังคาร (7) ไม่กี่ชั่วโมงหลังการลาออกอย่างกะทันหันของอดีตนายเก่าของเขา ตามหลังการประท้วงต่อต้านรัฐบาลและการขัดขืนคำสั่งของตำรวจยาวนานหลายสัปดาห์
ในถ้อยแถลงครั้งแรกนับตั้งแต่เข้ารับตำแหน่ง นายซาฮีดชี้แจงว่า นายนาซีดไม่ได้ถูกรัฐประหารโค่นล้มอำนาจ ไม่ถูกต้องนักหากเรียกเหตุการณ์นี้ว่ารัฐประหาร เราไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าเรื่องนี้จะเกิดขึ้นและผมก็ไม่เคยเตรียมตัวมาก่อนเลย
ส่วนกองทัพปฏิเสธถึงความเกี่ยวข้องกับการทำรัฐประหารต่ออดีตประธานาธิบดี แต่ทางโฆษกยอมรับว่าเจ้าหน้าที่ทหารเพียงให้คำแนะนำกับนายนาชีดว่าควรลงจากตำแหน่งเท่านั้น