เอเจนซี/เอเอฟพี - ประธานาธิบดีบารัค โอบามา แห่งสหรัฐฯ ประกาศกร้าวเมื่อวันพฤหัสบดี (17) ว่า กองทัพพญาอินทรีจะยังคงขยายบทบาทอิทธิพลของตนในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิกต่อไป พร้อมกับย้ำชัดว่า อเมริกา “มาที่นี่เพื่ออยู่” เป็นมหาอำนาจแห่งแปซิฟิกที่จะคอยช่วยเหลือปั้นแต่งอนาคตของภูมิภาคแห่งนี้ และให้คำมั่นด้วยว่า แม้จะมีการตัดลดงบประมาณรายจ่ายด้านกลาโหม ทว่าจะไม่มีการแตะต้องในส่วนของงบด้านความมั่นคงในภูมิภาคนี้อย่างแน่นอน
ประมุขทำเนียบขาวกล่าวสุนทรพจน์ต่อรัฐสภาของออสเตรเลียเมื่อวันพฤหัสบดี (17) หลังจากก่อนหน้านี้หนึ่งวัน เขาได้ร่วมแถลงกับนายกรัฐมนตรีจูเลีย กิลลาร์ด ว่า สหรัฐฯ จะเข้ามาตั้งฐานทัพในเมืองดาร์วิน ทางตอนเหนือของแดนจิงโจ้ โดยจะส่งทหารนาวิกโยธินมาประจำการ 2,500 คน รวมถึงฝูงบินและยุทโธปกรณ์ต่างๆ
“ในเมื่อเรากำลังจะยุติสงครามของวันนี้แล้ว ผมจึงได้สั่งการทีมงานด้านความมั่นคงแห่งชาติ ให้ถือว่าการปรากฏตัวและการปฏิบัติภารกิจในเอเชีย-แปซิฟิก เป็นวาระสำคัญอันดับหนึ่ง” โอบามา แสดงจุดยืนของวอชิงตันต่อภูมิภาคซึ่งถูกมองว่าจะกลายเป็นศูนย์กลางของศตวรรษที่ 21 นี้
“การตัดลดงบประมาณด้านกลาโหมของสหรัฐฯ จะต้องไม่ ... ผมขอย้ำว่า จะต้องไม่ เกิดขึ้นกับงบรายจ่ายในส่วนของเอเชีย-แปซิฟิก” ผู้นำสหรัฐฯ ประกาศชัดแจ้ง อย่างไรก็ตาม คำแถลงของเขานี้มีขึ้นในช่วงเวลาไม่เหมาะเจาะ เมื่อก่อนหน้านั้นไม่นาน ทางการสหรัฐฯได้เปิดเผยตัวเลขหนี้สาธารณะของอเมริกาว่าได้พุ่งสูงทำสถิติใหม่เกิน 15 ล้านล้านดอลลาร์ ซึ่งถือเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ พร้อมกับจุดชนวนให้นักการเมืองพรรครีพับลิกัน ออกมาจวกนโยบายเศรษฐกิจของโอบามาชนิดสาดเสียเทเสีย
ทั้งนี้โอบามา ยอมรับว่าจีนรู้สึกอึดอัดใจด้วยความหวาดระแวงว่าวอชิงตันกำลังพยายามวางหมากปิดล้อมปักกิ่ง โดยหลังจากสหรัฐฯ ประกาศจะจัดตั้งฐานทัพเพิ่มเติมที่ตอนเหนือของออสเตรเลียนั้น ปรากฏว่า จีนได้ออกมาตั้งคำถามเกี่ยวกับเหตุผลที่อเมริกาจะต้องกระทำเช่นนั้น พร้อมกับแสดงความเคลือบแคลงว่า การเสริมสร้างความเข้มแข็งให้แก่ประเทศพันธมิตรต่างๆ ในละแวกนี้ จะสามารถช่วยให้ภูมิภาคผนึกกำลังสมัครสมานกันในการฟันฝ่าวิกฤตเศรษฐกิจที่เป็นอยู่นี้ได้หรือไม่
อย่างไรก็ตาม โอบามา ระบุว่า สหรัฐอเมริกาจะแสวงหาช่องทางในการกระชับความสัมพันธ์กับจีน เพื่อรับประกันความรุ่งโรจน์ของเศรษฐกิจและความมั่นคงของภูมิภาค แต่กระนั้น เขาก็ประกาศลั่นว่าจะไม่ยอมพูดอ้อมค้อมเกี่ยวกับประเด็นดังเช่น เรื่องสิทธิมนุษยชนในประเทศจีน ตลอดจนจะยกประเด็นเรื่องความมั่นคง อาทิ ปัญหาพิพาทในทะเลจีนใต้ขึ้นมาถกอภิปราย
“เราจะมองหาโอกาสมากขึ้นในการร่วมมือกับปักกิ่ง ซึ่งรวมถึงการสื่อสารกันให้มากขึ้นระหว่างกองทัพของทั้งสองฝ่าย เพื่อส่งเสริมความเข้าใจซึ่งกันและกัน และหลีกเลี่ยงการวินิจฉัยผิดๆ”
“ชาติทั้งหมดทั้งปวง ต่างได้รับผลประโยชน์อย่างลึกซึ้งจากการผงาดขึ้นมาอย่างสันติและเจริญรุ่งเรืองของจีน และนั่นก็เป็นเหตุผลที่ว่าสหรัฐอเมริกาจึงมีความยินดี” โอบามา กล่าวเสริม
นอกเหนือจากประเด็นเรื่องจีนแล้ว เขายังเรียกร้องให้พม่าทำการปฏิรูปการเมืองให้มากกว่านี้อีก และเตือนเกาหลีเหนือด้วยว่าจะต้องชดใช้อย่างแสนสาหัสสำหรับการแพร่กระจายอาวุธนิวเคลียร์
หลังจากเสร็จสิ้นการกล่าวสุนทรพจน์ที่รัฐสภา โอบามา ได้เดินทางร่วมกับนายกฯหญิงกิลลาร์ด ไปเยี่ยมโรงเรียนแคนเบอร์รา ที่ซึ่งโอบามาได้พบปะกับบรรดาเด็กนักเรียน จากนั้นประธานาธิบดีแห่งสหรัฐฯ ก็ได้เดินทางต่อไปยัง เกาะบาหลี ประเทศอินโดนีเซีย เพื่อเข้าร่วมประชุมสุดยอดอีสต์ เอเชีย ซัมมิต ซึ่งจัดขึ้นในวันเสาร์ที่ 19 นี้ โดยที่ไฮไลต์สำคัญน่าจะหนีไม่พ้นเรื่องความมั่นคงในทะเลจีนใต้
ทางด้านกระทรวงการต่างประเทศของจีน แถลงวันพฤหัสบดี (17) ตอบโต้นโยบายของโอบามาที่กล่าวต่อรัฐสภาออสซี่ว่า สหรัฐฯ ควรจะต้องคำนึงถึงขั้วอำนาจอื่นๆ ในภูมิภาคด้วย หากจะเข้ามาเจริญสัมพันธไมตรีกับใครในเอเชีย
“เมื่อใดที่มีการกระชับความสัมพันธ์ระหว่างรัฐต่อรัฐ คุณจะต้องมีความรับผิดชอบต่อผลประโยชน์ของประเทศอื่นๆ และภูมิภาคโดยรวมด้วย ตลอดจนต่อสันติภาพ และเสถียรภาพของภูมิภาค” หลิว เหว่ยหมิน โฆษกกระทรวงการต่างประเทศแดนมังกร กล่าวต่อผู้สื่อข่าว
