น้ำมันลอนดอนดิ่ง-หุ้นมะกันปิดลบจากข้อมูลการผลิตของยุโรป

เอเจนซี/เอเอฟพี - ราคาน้ำมันลอนดอนดิ่งแรงเมื่อวันจันทร์ (14) หลังข้อมูลภาคการผลิตอันย่ำแย่ในยูโรโซนตอกย้ำถึงภัยคุกคามของภาวะเศรษฐกิจถดถอยในภูมิภาคแห่งนี้ขณะที่ยุโรปกำลังพยายามยับยั้งวิกฤตหนี้ที่ลุกลาม และด้วยปัจจัยดังกล่าวประกอบกับความไม่มั่นใจต่อรัฐบาลใหม่กรีซกับอิตาลี ฉุดให้วอลล์สตรีทปิดตัวในแดนลบ

สำนักงานสถิติแห่งสหภาพยุโรป หรือยูโรสแตท เปิดเผยว่า การผลิตภาคอุตสาหกรรมของกลุ่มสมาชิก 17 ชาติในเดือนกันยายน ลดลงจากเดือนสิงหาคม 2.0 จุด ได้ก่อความห่อเหี่ยวแก่นักลงทุนที่กำลังหวังว่ารัฐบาลใหม่ในอิตาลีและกรีซจะเข้ามาพลิกฟื้นเศรษฐกิจให้หลุดพ้นจากภาวะล้มละลาย ปัจจัยนี้เองส่งผลให้ราคาน้ำมันขยับลงพอสมควร

สัญญาล่วงหน้าน้ำมันดิบชนิดไลต์สวีตครูดของสหรัฐฯ งวดส่งมอบเดือนธันวาคม ลดลง 85 เซนต์ ปิดที่ 98.14 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หลังจากพุ่งสูงสุดในรอบ 15 สัปดาห์เมื่อวันศุกร์ (11) ส่วนเบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกัน ลดลง 2.27 ดอลลาร์ ปิดที่ 111.89 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

ข้อมูลภาคการผลิตอันย่ำแย่ในยูโรโซนนี้ และอัตราผลตอบแทนพันธบัตร 5 ปีของรัฐบาลอิตาลีที่พุ่งสูง ก็ส่งแรงกดดันต่อตลาดหุ้นสหรัฐฯ และนำมาซึ่งการปิดลบพอประมาณ เหตุนักลงทุนยังขาดความเชื่อมั่นต่อความพยายามจัดการปัญหาหนี้ของโรม รวมไปถึงกรีซด้วย

ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ ลดลง 74.39 จุด (0.61 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 12,079.29 แนสแดค ลดลง 21.59 จุด (0.81 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 2,657.16 เอสแอนด์พี ลดลง 11.90 จุด (0.94 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 1,251.95

นักลงทุนยังมีความกังวลต่ออัตราผลตอบแทนพันธบัตร 5 ปีของรัฐบาลอิตาลีที่ยังอยู่ในระดับสูง แม้ว่านายมาริโอ มอนตี นักเศรษฐศาสตร์ได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีแทนนายซิลวิโอ แบร์ลุสโกนี หนึ่งวันก่อนหน้านี้ โดยเขาแบกภาระหนักอึ้งในการนำพาประเทศหลุดพ้นจากปัญหาหนี้สิน

ขณะเดียวกัน ในกรีซ นายกรัฐมนตรีใหม่แกะกล่อง ลูคัส ปาปาเดมอส ก็ต้องเผชิญภาระที่หนักหนาไม่แพ้กันในการออกมาตราการรัดเข็มขัดให้เข้มข้นขึ้นตามเงื่อนไขของอียูเพื่อรับประกันเงินกู้ก้อนใหม่