เอเจนซี/วอลล์สตรีทเจอนัลด์ - ตลาดหุ้นสหรัฐฯดีดตัวกลับเมื่อวันพฤหัสบดี(10) หลังอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอิตาลีผ่อนคลายลงเล็กน้อยและตัวเลขผู้เข้ารับสิทธิประโยชน์คนว่างงานอเมริกาลดลงอย่างมาก ทั้งนี้ปัจจัยข้างต้นก็ช่วยดันให้ราคาน้ำมันแตะระดับสูงสุดในรอบ3เดือนเลยทีเดียว
ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 128.66 จุด (1.09 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 11,909.60 แนสแดค เพิ่มขึ้น 6.87 จุด (0.26 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 2,628.52 เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 10.72 จุด (0.87 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 1,239.82
การขยับขึ้นพอสมควรวานนี้(10) มีขึ้นหนึ่งวันหลังจากที่ตลาดหุ้นสหรัฐฯดิ่งลงอย่างหนักในวันพุธ(9) หลังพันธบัตรรัฐบาลอิตาลีประเภทระยะ 10 ปี อัตราผลตอบแทนทะยานทะลุระดับ 7% ซึ่งถือเป็นระดับอันตราย และสะท้อนว่านักลงทุนขาดความเชื่อมั่นในแดนมักกะโรนีโดยสิ้นเชิง แถมยังเป็นระดับเดียวกับเมื่อตอนที่กรีซ ไอร์แลนด์และโปรตุเกส ต้องร้องขอเงินช่วยเหลือจากอียู
แต่พันธบัตรรัฐบาลอิตาลีปรับลดลงเล็กน้อยเมื่อวันพฤหัสบดี(10) ตามหลังผลประมูลพันธบัตรรัฐบาลอิตาลีเป็นที่น่าพอใจ และมีการพูดถึงความเป็นไปได้ของการประชุมฉุกเฉินของธนาคารกลางยุโรปในความพยายามระงับความกังวล อย่างไรก็ตามคาดหมายว่าการซื้อขายในตลาดหุ้นจะยังคงผันผวนต่อไปจนกว่าจะมีคำแถลงที่เด็ดขาดออกมา
ด้านราคาน้ำมันวานนี้(10) ปิดบวกแง แตะระดับสูงสุดในรอบ 3 เดือน หลังได้ปัจจัยเสริมจากข้อมูลภาคแรงงานสหรัฐฯ เพิ่มเติมจากสัญญาณแห่งความคืบหน้าในการคลี่คลายวิกฤตหนี้ของยุโรป
สัญญาล่วงหน้าน้ำมันดิบชนิดไลต์สวีตครูดของสหรัฐฯ งวดส่งมอบเดือนธันวาคม เพิ่มขึ้น 2.04 ดอลลาร์ ปิดที่ 97.78 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล สูงสุดนับตั้งแต่ปลายเดือนกรกฎาคม ส่วนเบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน เพิ่มขึ้น 1.40 ดอลลาร์ ปิดที่ 113.71 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ปัจจัยหลังนอกจากปัญหาหนี้ในยุโรปแล้ว นักลงทุนได้ชี้ไปที่ข้อมูลพลังงานสำรองของสหรัฐฯในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมาที่พบว่าลดลงอย่างมาก โดยเฉพาะสต๊อกน้ำมันกลั่นที่ประกอบด้วยดีเซลและน้ำมันทำควมร้อนที่ปรับลดอย่างมากขณะที่ประเทศกำลังเข้าสู่ช่วงต้นฤดูหนาวและดูเหมือนอุปสงค์น้ำมันทำความร้อนจะยิ่งพุ่งสูงขึ้นไปอีก
