เอเอฟพี - ราคาน้ำมันตลาดนิวยอร์กพุ่งกว่า 3 ดอลลาร์เมื่อวันพุธ(20) จากสต๊อกเชื้อเพลิงสหรัฐฯลดลงอย่างมากและดอลลาร์ที่อ่อนค่า ขณะที่วอลล์สตรีท บวกแรงเช่นกันตามรายงานผลประกอบการอันสดใสของบริษัทต่างๆ
สัญญาล่วงหน้าน้ำมันไลต์สวีตครูตของสหรัฐฯ งวดส่งมอบเดือนพฤษภาคม เพิ่มขึ้น 3.17 ดอลลาร์ ปิดที่ 111.45 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกัน เพิ่มขึ้น 2.52 ดอลลาร์ ปิดที่ 123.85 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ราคาน้ำมันขยับขึ้นหลังจากในวันพุธ(20) ดอลลาร์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับยูโร โดยแตะระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนมกราคม 2010 ที่ 1.4550 ดอลลาร์ต่อยูโร
นอกจากนี้ความเคลื่อนไหวของราคาน้ำมันยังได้แรงหนุนจากข้อมูลจากกระทรวงพลังงานสหรัฐฯที่ระบุวานนี้(20) ว่าคลังน้ำมันดิบสำรองของประเทศในสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 15 เมษายน ลดลง 2.3 ล้านบาร์เรล เหลือ 357.0 ล้านบาร์เรล สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดหมายว่าน่าจะเพิ่มขึ้นเป็นสัปดาห์ที่ 7 ติดต่อกัน
ส่วนคลังน้ำมันเบนซินสำรองก็ลดลง 1.6 ล้านบาร์เรล นับเป็นการปรับลด 2 สัปดาห์ติด ขณะที่สต๊อกน้ำมันกลั่น อันประกอบด้วยดีเซลและน้ำมันทำความร้อน ต่างก็ลดลงเกินความคาดหมายเช่นกัน โดยเหลือคงคลังที่ 148.3 ล้านบาร์เรล
ทั้งนี้รวมแล้วเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา สต๊อกน้ำมันของสหรัฐฯ ลดลงถึง 6.7 ล้านบาร์เรล บ่งชี้ถึงอุปสงค์ที่เพิ่มขึ้นในชาติผู้บริโภคพลังงานรายใหญ่ที่สุดในโลกแห่งนี้
ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯวานนี้(20) บวกแรง โดยดาวโจนส์ ปิดสูงสุดในรอบเกือบ 2 ปี หลังได้ปัจจัยหนุนจากรายงานผลประกอบการบริษัทยักษ์ใหญ่ โดยเฉพาะในภาคเทคโนโลยี
ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 186.79 จุด (1.52 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 12,453.54 แนสแดค เพิ่มขึ้น 57.54 จุด (2.10 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 2,802.51 จุด เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 17.74 จุด (1.35 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 1,330.36 จุด