เพรสส์ทีวี - สื่อแดนอาหรับ ระบุ อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของไทยได้รับความเสียหายอย่างแสนสาหัสจากอุทกภัยครั้งเลวร้ายที่สุดในรอบหลายทศวรรษ ขณะที่สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมหลายแห่ง มีแต่ความเวิ้งว้างว่างเปล่า
สำนักข่าวเพรสส์ทีวีของอิหร่าน รายงานว่า นักท่องเที่ยวหลายหมื่นคนต่างพากันยกเลิกโปรแกรมมาไทย หลังปัญหาน้ำท่วมส่งผลประทบในหลายจังหวัด พร้อมก่อความเสียหายแก่วัดวาอารามและสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา
ทางการไทยแถลงประเมินความเสียหายต่อภาคอุตสาหกรรมท่องเที่ยวที่ราว 520 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (ราว 16,000 ล้านบาท) ถึง 825 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (ราว 25,000 ล้านบาท) และตัวเลขอาจพุ่งสูงกว่านี้ หากปัญหาอุทกภัยยืดเยื้อไปจนถึงสิ้นเดือนธันวาคม เพรสส์ทีวีระบุ
วัดและสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญหลายแห่ง มีนักท่องเที่ยวลดลงจากปกติอย่างมากในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา และบางส่วนถึงขั้นไม่มีคนเลยก็มี ขณะเดียวกัน สนามบินในประเทศหลายแห่งต้องปิดบริการ ส่วนที่เหลือก็เดินทางไปอย่างยากลำบาก
เพรสส์ทีวีรายงานว่า ทางการไทยพยายามขัดขวางไม่ให้กระแสน้ำไหลเข้าถึงพื้นที่ชั้นในของกรุงเทพฯอันเป็นที่ตั้งของสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญ วัด และโรงแรมต่างๆ อย่างไรก็ตามอุทกภัยที่กำลังเล่นงานประเทศแห่งนี้ ก็ส่งผลให้มีจำนวนผู้โดยสารขาเข้า ณ สนามบินสุวรรณภูมิลดลงราวร้อยละ 25 แล้ว
แม้จำนวนนักท่องเที่ยวโดยรวมของปีนี้จะลดลงเพียงร้อยละ 2 แต่การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ยอมรับว่า จะสามารถสรุปผลกระทบของอุทกภัยต่อการท่องเที่ยวได้อย่างแท้จริงก็ต่อเมื่อน้ำลดลงไปแล้ว และขึ้นอยู่กับว่ารัฐบาลจะจัดการได้เร็วแค่ไหนหลังจากนั้น แต่คาดเดาว่าจากเดิมที่ตั้งเป้าหมายไว้ 19 ล้านคน ในปีนี้น่าจะมีจำนวนนักท่องเที่ยวต่ำกว่าเป้าราว 500,000 ถึง 1 ล้านคนจากพิษของน้ำท่วม
ขณะที่ฤดูกาลท่องเที่ยว (ไฮซีซัน) ได้เริ่มขึ้นแล้ว การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ได้ดำเนินการประชาสัมพันธ์ระดับนานาชาติด้วยความช่วยเหลือจากสำนักงานในต่างแดน 25 สาขาทั่วโลกแจ้งให้นักท่องเที่ยวทราบว่ายังมีแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมของไทยอีกมากที่ไม่ได้อยู่ในพื้นที่ประสบอุทกภัย โดยเฉพาะที่เชียงใหม่ เกาะสมุย พัทยา และ ภูเก็ต
หนึ่งในเป้าหมายหลักของรัฐบาลไทยเมื่อน้ำลด คือ เรียกคืนความเชื่อมั่นของชาวต่างชาติ และฟื้นฟูเสถียรภาพของประเทศ ดังนั้น ความพยายามชักชวนนักท่องเที่ยวกลับมาก็เป็นเป้าหมายสำคัญในฐานะที่มันเป็นแหล่งรายได้และหน้าที่การงานของคนไทย สำนักข่าวแห่งนี้ กล่าว