บีบีซีนิวส์ - ความพยายามช่วยเหลือบรรเทาทุกข์ผู้ประสบอุทกภัยในแคว้นสินธุ์ ทางตอนใต้ของปากีสถาน กำลังประสบปัญหาขาดแคลนงบประมาณสนับสนุนอย่างหนัก จนอาจต้องลดทอนหรือระงับความช่วยเหลือชั่วคราว หากยังไม่มีการบริจาคเพิ่มเติมโดยด่วน ขณะที่มีผู้ประสบภัยเสียชีวิตแล้วประมาณ 250 ราย ประชาชนอีกเกือบล้านคนต้องอพยพออกจากบ้านเรือน ตั้งแต่เดือนสิงหาคม บรรดาองค์กรบรรเทาทุกข์ระหว่างประเทศเปิดเผยวันนี้ (9)
องค์กรช่วยเหลือที่เปิดเผยปัญหาขาดงบสนับสนุนนี้ประกอบด้วย อ็อกซ์แฟม (Oxfam), เซฟ เดอะ ชิลเดรน (Save the Children), แคร์ (Care) และ แอคเต็ด (Acted) ซึ่งแถลงคำเตือนว่า ชาวปากีสถานเกินกว่า 9 ล้านคน กำลัง “เสี่ยง” ต่อโรคติดต่อและทุพภิกขภัย (ภาวะขาดแคลนอาหารประทังชีวิต) พร้อมทั้งเตือนว่า อาจต้องลดขนาดโครงการบรรเทาทุกข์ หากยังไม่มีผู้ให้ความช่วยเหลือด้านงบประมาณเพิ่มเติมโดยเร็ว
ส่วน เงินบริจาคให้โครงการช่วยเหลือขององค์การสหประชาชาติก็มีมูลค่าไม่ถึง 1 ใน 3 ของตั้งเป้าหมายซึ่งตั้งไว้ที่ 357 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 11,000 ล้านบาท)
ขณะเดียวกัน สื่อมวลชนรายงานว่า ภาพรวมการรับมือวิกฤตอุทกภัยตั้งแต่เดือนสิงหาคมของรัฐบาลปากีสถานถือว่า “ล้มเหลว” ติดต่อกันเป็นปีที่ 2 หลังจากปีที่แล้วแคว้นสินธุ์ก็เพิ่งเผชิญปัญหาเดียวกันนี้ โดยปัจจุบัน ผู้ประสบภัยปากีสถานประมาณ 3 ล้านคน ยังคงต้องพึ่งพาความช่วยเหลือด้านอาหาร และอีกประมาณ 800,000 คน ต้องอพยพออกจากบ้านเรือน องค์กรช่วยเหลือทั้งสี่แห่งเปิดเผย
ด้าน ฝ่ายปกครองแคว้นสินธุ์ ระบุว่า มีอย่างน้อย 4 ใน 22 เมือง ยังจมอยู่ใต้บาดาล ซึ่งมีความรุนแรงเลวร้ายยิ่งกว่าวิกฤตน้ำท่วมปากีสถานเมื่อปีที่แล้ว ในปีนี้ หลังจากฝนตกหนักชนิดไม่ลืมหูลืมตา น้ำท่วมก็ไหลบ่าเข้าทำลายบ้านเรือน เฉพาะในแคว้นสินธุ์แห่งเดียวประมาณ 1.5 หลัง โดยมีผู้เสียชีวิตแล้วประมาณ 250 ราย ตั้งแต่เดือนสิงหาคมที่ผ่านมา
ทางการปากีสถานแสดงความกังวลถึงการแพร่ระบาดอย่างรวดเร็วของโรคต่างๆ ที่มากับน้ำ และเตือนว่า สถานการณ์ของแคว้นสินธุ์จะยิ่งเลวร้ายลงไปกว่านี้
โครงการช่วยเหลือของยูเอ็นได้รับผลกระทบจากยอดบริจาคที่หดหาย โดยยอดเงินบริจาคช่วยปากีสถานที่ตั้งไว้ที่ 357 ดอลลาร์ เพิ่งมีผู้บริจาคช่วยเหลือเพียง 96 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 2,900 ล้านบาท) เท่านั้น ทั้งๆ ที่มีการรณรงค์เชิญชวนการบริจาคมานานหลายเดือน
“น้ำท่วมฉับพลันปี 2011 มียอดบริจาคต่ำกว่าเป้าหมายอย่างน่าใจหาย โดยขาดแคลนถึง 73 เปอร์เซ็นต์ หากยังไม่มีการบริจาคช่วยเหลือ เสบียงบรรเทาทุกข์จะหมดภายในไม่กี่สัปดาห์” สเตซีย์ วินส์ตัน โฆษกหญิงของยูเอ็น แถลง พร้อมทั้งเปิดเผยรายละเอียดว่า ยูเอ็นกำลังตะเกียกตะกายจัดหาน้ำสะอาด สุขอนามัย อาหาร ศูนย์พักพิง และการรักษาพยาบาล ช่วยเหลือปากีสถาน
นอกจากนี้ องค์กรช่วยเหลือทั้ง อ็อกซ์แฟม, เซฟ เดอะ ชิลเดรน, แคร์ และแอคเต็ด ยังเตือนว่า รัฐบาลปากีสถานก็กำลังประสบปัญหาด้านงบประมาณเช่นกัน และอาจจำต้องลดทอนการช่วยเหลือผู้ประสบภัยในเร็วๆ นี้
“นานกว่า 2 เดือน ผู้ประสบภัยหลายล้านคนยังไม่สามารถดูแลตัวเองได้ หากความช่วยเหลือต้องยุติลง นั่นอาจนำไปสู่มหันตภัยที่เราอาจคาดไม่ถึง” เนวา ข่าน ผู้อำนวยการองค์กรอ็อกซ์แฟมประจำปากีสถาน กล่าว
ขณะโรคร้ายที่มาพร้อมน้ำกำลังระบาดในแคว้นสินธุ์ อาหารเลี้ยงปากท้องผู้ประสบภัยใกล้หมดลงทุกวันๆ ชีวิตของผู้ใหญ่อย่างน้อย 2 ล้านคน และเด็กอีกอย่างน้อย 3 ล้านคน กำลังอยู่ในภาวะเสี่ยงอันตราย
ทั้งนี้ หลังจากเดือนธันวาคม “อ็อกซ์แฟม” เครือข่ายองค์กรช่วยเหลือปัญหาความยากจนและความไม่เท่าเทียมระหว่างประเทศ อาจต้องระงับความช่วยเหลือซึ่งผู้ประสบภัย 3.9 ล้านคน อาจถูกโดดเดี่ยว ด้าน “เซฟ เดอะ ชิลเดรน” องค์กรอิสระเพื่อการปกป้องสิทธิ์เด็กยากจน เพิ่งได้รับเงินบริจาคเพื่อช่วยเหลือปากีสถานเพียง 35 เปอร์เซ็นต์ เท่านั้นจากเป้าหมายที่ตั้งไว้ ขณะที่องค์กร “แคร์” ก็ขาดงบประมาณสนับสนุนถึง 91 เปอร์เซ็นต์
ภาพข่าวน้ำท่วมปากีสถานจากบีบีซี