รัฐสภาอิตาลีรับร่างงบประมาณ “แบร์ลุสโคนี” ให้สัญญาจะลาออก

ซีเอ็นเอ็น - รัฐสภาอิตาลีลงมติเห็นชอบผ่านมาตรการปฏิรูปงบประมาณเมื่อวันอังคาร (8) ชัยชนะครั้งสำคัญของรัฐบาลของนายกรัฐมนตรี ซิลวิโอ แบร์ลุสโคนี อย่างไรก็ตาม ก็มีสัญญาณที่ไม่มั่นคงต่อผู้นำรายนี้ หลังเขาไม่สามารถครองเสียงส่วนใหญ่ไว้ได้อีกต่อไป

ร่างงบประมาณปี 2010 ผ่านความเห็นชอบจากรัฐสภาด้วยคะแนน 308 เสียง งดออกเสียง 1 เสียง อย่างไรก็ตามมากกว่าครึ่งของสมาชิกสภา 630 คนไม่ยอมเข้าร่วมการลงมติครั้งนี้ ส่งสัญญาณอย่างชัดเจนถึงความไม่พอใจต่อรัฐบาล และบ่งชี้ว่า แบร์ลุสโคนี ไม่ได้รับการสนับสนุนจากเสียงข้างมากอีกต่อไป

ทั้งนี้ แบร์ลุสโคนี ได้เข้าพบประธานาธิบดี จิออร์จิโอ นาโปลิตาโน เป็นเวลาราว 1 ชั่วโมงหลังสูญเสียเสียงข้างมากในรัฐสภา และในถ้อยแถลงของทำเนียบประธานาธิบดีระบุว่าแบร์ลุสโคนีให้คำมั่นระหว่างหารือกันว่าพร้อมลาออกจากตำแหน่งเมื่อแผนปฏิรูปเศรษฐกิจตามข้อเรียกร้องของสหภาพยุโรปผ่านความเห็นชอบจากรัฐสภาซึ่งมีกำหนดลงมติกันในสัปดาห์หน้านี้

แบร์ลุสโคนี ตกอยู่ภายใต้แรงกดดันอันหนักหน่วงขึ้นเรื่อยๆ จากเสียงเรียกร้องขอให้ลาออกจากตำแหน่งท่ามกลางข้อกังวลจากทั้งภายในและต่างชาติเกี่ยวกับปัญหาเศรษฐกิจของประเทศ ทั้งนี้คาดหมายว่าอีกไม่นานเขาอาจต้องเผชิญกับญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งสำคัญ

อิตาลีตกลงส่งเสริมการปฏิรูปโครงสร้างระหว่างการประชุมสหภาพยุโรปในกรุงบรัสเซลส์เมื่อเดือนที่แล้ว ขณะที่ประธานาธิบดีจิออร์จิโอ นาโปลิตาโน บอกว่าประเทศจำเป็นต้องเดินหน้าปฏิรูปหรือไม่เช่นนั้นความน่าเชื่อถือของอิตาลีก็จะตกอยู่ในความเสี่ยง

ก่อนหน้านี้ มีข่าวลือว่า แบร์ลุสโคนี อาจตัดสินใจลาออกจากตำแหน่ง แต่เมื่อวันจันทร์(7) เขาปฏิเสธโดยสิ้นเชิงและยืนยันว่าเป็นเรื่องไร้สาระ อย่างไรก็ตามพันธมิตรหลักของเขาในรัฐบาลผสมก็เติมเชื้อไฟขึ้นอีกในวันอังคาร (8) โดยบอกกับผู้สื่อข่าวว่าเขาร้องขอให้นายกรัฐมนตรียอมสละอำนาจ

อัมเบอร์โต บอสซี จากพรรคนอร์ทเทิร์น ลีก แนะว่าคนที่ควรก้าวสู่ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีแทนแบร์ลุสโคนี น่าจะเป็นอันเจลิโน อัลฟาโน รัฐมนตรียุติธรรม แม้ว่าทางสำนักงานของเขาของดแสดงความคิดเห็นในเรื่องนี้ ทั้งนี้หากว่าพรรคนอร์ทเทิร์น ลีกถอนการสนับสนุนแบร์ลุสโคนี ก็เป็นเรื่องยากที่เขาจะรักษาเก้าอี้ไว้ต่อไป

ก่อนหน้านี้ แบร์ลุสโคนี รอดพ้นความพยายามท้าทายความเป็นผู้นำของเขามาแล้วหลายต่อหลายครั้ง แต่หากคราวนี้เขาไม่ผ่านการลงมติไว้วางใจ ผลก็คือการเลือกตั้งใหม่หรือรูปแบบของรัฐบาลเปลี่ยนถ่าย

แม้รัฐสภาอิตาลีได้ผ่านมาแพกเกจมาตรการรัดเข็มขัดไปแล้วรอบหนึ่งในเดือนกันยายน อันประกอบด้วยการขึ้นภาษี แต่นักเศรษฐศาสร์บางส่วนกังวลว่าหากไม่มีมาตรการรัดเข็มขัดเพิ่มเติม โรมอาจมีหนี้ท่วมและกองทุนช่วยเหลือยุโรปเองก็คงไม่มีเงินเพียงพอที่จะปล่อยกู้แก่เศรษฐกิจที่ใหญ่ขนาดนี้ได้