“นิวยอร์กไทม์ส” ชี้น้ำท่วมทดสอบ “ยิ่งลักษณ์” กับภาวะผู้นำหน้าใหม่

นิวยอร์กไทม์ส - สองเดือนนับตั้งแต่รับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร กำลังเผชิญบททดสอบภาวะผู้นำที่จะสะท้อนความสามารถบริหารงาน จากปัญหาต่างๆ ไม่เพียงวิกฤตอุทกภัยเท่านั้น แต่รวมถึงการแบกรับเสียงวิพากษ์วิจารณ์ และคู่แข่งทางการเมืองที่พร้อมฉกฉวยประโยชน์จากความผิดพลาดของเธอ หนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทม์ส ฉบับวันศุกร์ (21) รายงาน

วันพฤหัสบดี (20) ที่ผ่านมา น.ส.ยิ่งลักษณ์ยอมรับว่า ไม่สามารถบังคับทิศทางการไหลของน้ำได้ทั้งหมด พร้อมทั้งย้ำว่าจะเปิดประตูระบายน้ำ เพื่อให้น้ำไหลผ่านกรุงเทพฯ ลงสู่ทะเลโดยเร็วที่สุด

ทั้งนี้ นิวยอร์กไทม์สรายงานว่า รัฐบาลไทยพยายามปกป้องกรุงเทพฯ ศูนย์กลางเศรษฐกิจและการเมืองของประเทศ ด้วยการสร้างพนังและช่องทางระบายน้ำ เพื่อบังคับไม่ให้น้ำทะลักเข้าถึงพื้นที่ชั้นใน แต่มวลน้ำยังคงโถมเข้าปะทะแนวคันกั้นน้ำ จนพื้นที่เขตตอนเหนือและตะวันออกของกรุงเทพฯ ต่างมีน้ำท่วมถึงแล้วทั้งสิ้น

ไม่มีความชัดเจนจากการตัดสินใจของรัฐบาลว่า เขตใดบ้างที่ต้องถูกน้ำท่วม หรือระดับน้ำจะสูงเพียงใด ขณะที่คำแถลงแต่ละครั้งยิ่งทำให้ประชาชนทั่วกรุงเกิดความแตกตื่น สินค้าจำพวกน้ำดื่ม ถ่านไฟฉาย และบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ต่างถูกซื้อไปกักตุนจนเกลี้ยงชั้นวางของ

สื่อสหรัฐฯ ฉบับนี้ยังระบุว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์เป็นนักการเมืองที่อ่อนประสบการณ์ และต้องทำงานร่วมกับคณะรัฐมนตรีที่เธอไม่ได้รู้ความสามารถของแต่ละคนดีพอ ปฏิกิริยาเบื้องต้นของเธอ ยามที่มวลน้ำเข้าจ่อกรุงเทพฯ แสดงออกผ่านทางน้ำเสียงที่ไร้ความมั่นใจ และสัญญาณของความสับสน

ช่วงที่ผ่านมา รัฐบาลยังประเมินสถานการณ์น้ำผิดพลาด ด้วยการประกาศความเชื่อมั่นว่า สถานการณ์เลวร้ายที่สุดได้ผ่านไปแล้ว และกรุงเทพฯ จะรอดน้ำท่วมแน่นอน นอกจากนั้น ดูเหมือนว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ จะมีปัญหาหนักอกในการควบคุมรัฐมนตรีแต่ละคน โดยปล่อยให้รัฐมนตรีออกมาประกาศข้อมูลและคำสั่งที่ขัดแย้งกันเอง เธอยังต้องรับแรงเสียดทานจาก ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพฯ จากพรรคประชาธิปัตย์ และเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากภาคประชาชนที่ตื่นกลัวและไม่พอใจ

ทั้งนี้ ฝนตกหนักในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา ประกอบกับน้ำล้นที่เขื่อนต้องระบายออก ส่งผลให้จังหวัดต่างๆ จมอยู่ใต้บาดาล เรือกสวนไร่นาถูกทำลาย โรงงานอย่างน้อย 1,000 แห่ง ต้องชะงักงัน ขณะเดียวกัน ตัวเลขผู้เสียชีวิตมีไม่ต่ำกว่า 300 ราย ประชาชนราว 9 ล้านคน ได้รับผลกระทบและอีกหลายหมื่นคนต้องอพยพออกจากบ้านเรือน

ความเสียหายทางเศรษฐกิจไม่ได้เกิดขึ้นเฉพาะไทยเท่านั้น แต่สะเทือนถึงอุตสาหกรรมข้ามชาติ โดยเฉพาะการผลิตรถยนต์ และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งพึ่งพาการผลิตชิ้นส่วนจากประเทศไทย

น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร น้องสาวคนสุดท้องของทักษิณ ถูกตั้งคำถามมากมาย ตั้งแต่เริ่มลงสนามการเมือง เมื่อทักษิณวางตัวเธอเป็นปาร์ตี้ลิสต์เบอร์ 1 ของพรรคเพื่อไทย ยิ่งไปกว่านั้น หลายเสียงเชื่อกันว่า ทักษิณยังเป็นคนเลือกสมาชิกคณะรัฐมนตรีชุดนี้ ทั้งๆ ที่ตัวอยู่ไกลถึงนครดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์

อย่างไรก็ตาม ภาวะผู้นำและนโยบายของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ อาจถูกทักษิณชี้นำจากนครดูไบ แม้การแก้ปัญหาอุทกภัยเร่งด่วนต้องตัดสินใจชัดเจนและรวดเร็ว รวมทั้งเป็นต้องอาศัยการติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด รศ.ดร.ฐิตินันท์ พงษ์สุทธิรักษ์ ผู้อำนวยการสถาบันศึกษาความมั่นคงและนานาชาติ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวผ่านหนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทม์ส

“ความกล้าตัดสินใจจะถูกทดสอบ แน่นอนครับ นั่นจะบ่งบอกถึงภาวะผู้นำของเธอ”

รศ.ดร.ฐิตินันท์กล่าวต่อว่า คุณสมบัติอย่างหนึ่งของผู้นำ คือ จิตใจแน่วแน่มั่นคงที่สามารถรับเสียงวิพากษ์วิจารณ์ แต่ น.ส.ยิ่งลักษณ์อาจขาดคุณสมบัติความเด็ดขาดในการตัดสินใจเรื่องที่ยากลำบาก และควบคุมรัฐมนตรีไม่ให้ตัดสินใจตามลำพัง เช่น การประกาศอพยพที่ผิดพลาดของนายปลอดประสพ สุรัสวดี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี จนต้องมีการแถลงแก้

ไม่ว่าจะสังกัดพรรคใดก็ตาม รศ.ดร.ฐิตินันท์ พงษ์สุทธิรักษ์ กล่าวว่า การป้องกันกรุงเทพฯ ศูนย์กลางเศรษฐกิจ เป็นภารกิจสำคัญของทั้งรัฐบาลและฝ่ายตรงข้ามที่ต้องร่วมมือกัน