เอเอฟพี - เหยื่อเคราะห์ร้าย 8 ราย ถูกยิงเสียชีวิต โดยมีผู้บาดเจ็บสาหัสอีกรายหนึ่ง หลังเกิดเหตุอดีตสามีบุกกราดยิงร้านทำผมที่ภรรยาเก่าทำงานอยู่ในเมืองชายหาด ทางตอนใต้ของรัฐแคลิฟอร์เนีย เมื่อวันพุธ (12) ที่ผ่านมา
หลังเกิดเหตุไม่นาน ตำรวจสหรัฐฯ สามารถตามรวบตัวคนร้ายที่กำลังอยู่ระหว่างหลบหนี ไกลจากร้านซาลอนเมริเทจ เมืองซีลบีช ไม่ถึงกิโลเมตร ขณะที่สื่อท้องถิ่นรายงานว่า คนร้ายเป็นชายผิวขาว และกำลังสู้คดีแย่งสิทธิ์เลี้ยงดูบุตรกับอดีตภรรยา ซึ่งทำงานอยู่ภายในร้าน
นอกจากนี้ มีรายงานว่า คนร้ายเป็นอดีตนายทหารสหรัฐฯ เขาสวมเสื้อเกราะกันกระสุน และขนอาวุธนานาชนิดก่อเหตุกราดยิง ทว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่ยืนยันรายงานชิ้นนี้ โดยระบุเพียงว่า สามารถจับกุมคนร้ายได้ “โดยละม่อม”
“เขาให้ความร่วมมือ และไม่ขัดขืนการจับกุม” สตีฟ โบว์เลส โฆษกสำนักงานตำรวจเมืองซีลบีช เปิดเผยกับผู้สื่อข่าว “ตอนตำรวจไปถึงที่เกิดเหตุ เราพบว่า มีผู้เสียชีวิตแล้ว 6 ราย และคนบาดเจ็บสาหัสอีก 3 ราย” อย่างไรก็ตาม ผู้เคราะห์ร้าย 2 ราย เสียชีวิตในเวลาต่อมา หลังจากทนพิษบาดแผลไม่ไหว
โฆษกตำรวจเมืองซีลบีชเปิดเผยการจับกุมว่า เจ้าหน้าที่สามารถระบุรถของคนร้าย และไล่ตามจับกุมได้โดยละม่อม ตำรวจตรวจพบอาวุธจำนวนหนึ่งซุกซ่อนอยู่ภายในรถ
ขณะเกิดเหตุเวลาเที่ยงวัน (ตามเวลาท้องถิ่น) ร้านซาลอนเมริเทจมีลูกค้าและพนักงานอยู่เต็มร้าน
ลิเดีย โซซา อดีตลูกจ้างร้านนี้ ให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ระบุชื่อคนร้ายว่า “สก็อต” โดยคนร้ายได้สังหารอดีตภรรยาที่ทำงานอยู่ภายในร้าน ขณะที่ทั้งสองกำลังต่อสู้คดีแย่งสิทธิ์เลี้ยงดูบุตร หลังจากหย่าร้างกัน
ทั้งนี้ คดีกราดยิงกลายเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นในสหรัฐฯ บ่อยครั้ง โดย 3 สัปดาห์ก่อนหน้านี้ เพิ่งมีคนถูกยิงเสียชีวิต 3 ราย ในย่านซิลิคอน วัลเลย์ ส่วนเมื่อเดือนกันยายน ก็มีเหตุกราดยิงในเมืองคาร์สัน ซิตี รัฐเนวาดา มีผู้เสียชีวิตอีก 3 ราย
อนึ่ง เหตุกราดยิงครั้งร้ายแรงที่สุด เกิดขึ้นวันที่ 16 เมษายน 2007 เมื่อโช ซึงฮึย นักศึกษาชาวเกาหลีใต้ ไล่ยิงผู้คนในมหาวิทยาลัยเวอร์จิเนียเทค เมืองแบล็กส์เบิร์ก รัฐเวอร์จิเนีย ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 33 ราย ก่อนคนร้ายฆ่าตัวตายตาม