ซิดนีย์มอนิงเฮรัลด์/ซีเอ็นเอ็นโก - “จ๊ะ คันหู” ดังไกล สื่อชื่อดังต่างประเทศนำเสนอเรื่องราวหญิงสาวผู้เป็นประเด็นร้อนแห่งปีของไทย ที่กลบกระแสความแตกแยกทางการเมืองและการประท้วงบนท้องถนนได้ชะงัด ขณะที่เพลงของเธอได้รับความนิยมอย่างมากท่ามกลางเสียงวิจารณ์อันดุเดือดต่อการแสดงที่ไม่เหมาะสม
ซีเอ็นเอ็นโกระบุว่า สตรีคนดังกล่าวมีนามว่า น้องจ๊ะ หรือชื่อจริง น.ส.นงผณี มหาดไทย นักศึกษาการบริหารจัดการปี 2 ซึ่งโด่งดังกับเพลงคันหู อันสามารถดึงดูดคนเข้าชมในยูทิวบ์ไปแล้วกว่า 16 ล้านครั้ง ขณะเดียวกันก็มีผู้กดไลค์ในเฟซบุ๊กของเธอนับแสน
ด้านซิดนีย์มอนิงเฮรัลด์บอกว่า น้องจ๊ะเป็นนักร้องที่ร้อนแรงที่สุดของไทยในเวลานี้ โดยรูปของเธอปรากฏตามหน้าหน้าหนังสือพิมพ์หลายฉบับ รายการโทรทัศน์หลายรายการเชิญเธอไปให้สัมภาษณ์ ขณะที่คิวการแสดงของเธอในปี 2012 ก็ถูกจองจนเต็มหมดแล้ว
อย่างไรก็ตาม อีกด้านหนึ่งการแสดงของเธอก็ก่อความขุ่นเคืองแก่สังคมอนุรักษนิยมในประเทศที่คนส่วนใหญ่นับถือศาสนาพุทธแห่งนี้ และนำมาซึ่งการร้องทุกข์ไปยังกระทรวงวัฒนธรรมที่เวลานี้กำลังพิจารณาประเด็นดังกล่าว
สื่อชื่อดังทั้งสองระบุว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นกับเพลงคันหูก็คือ การแสดงบนเวทีของน้องจ๊ะ ที่มักนุ่งน้อยห่มน้อย และแทนที่จะจำกัดไปที่ใบหู แต่มืออีกข้างหนึ่งกลับชี้ตรงมาที่อวัยวะที่เป็นของสงวน และเหล่านักวิจารณ์บอกว่ามันเป็นท่าเต้นที่เหลือให้จินตนาการเพียงเล็กน้อย
นอกจากนี้ พวกเขายังบอกอีกว่าระหว่างการร้องเพลงนั้นยังมีการออกเสียงที่ไม่เหมาะสมและเล่นสำนวนกำกวมออกไปในเชิงลามกด้วย
ซิดนีย์มอนิงเฮรัลด์ระบุต่อว่า ขณะที่เพลงนี้ได้รับความนิยมอย่างรวดเร็วในไทย ซึ่งสามารถได้ยินในแท็กซี่ ร้านอาหาร รกตุ๊กตุ๊ก หรือแม้แต่วินรถจักรยานยนต์ ตัวน้องจ๊ะ กลับถูกด่าทอต่างๆ นานา ในจำนวนนั้นถึงกับเปรียบเธอว่าเป็นโสเภณี ทั้งที่ความจริงไม่เป็นเช่นนั้นเลย
ทั้งนี้ ซิดนีย์มอนิงเฮรัลด์เผยว่า ตัวของน้องจ๊ะเองก็ดูเหมือนจะรับมือกับเสียงวิจารณ์ได้ไม่ดีนัก แม้เสียงครหาเหล่านั้นมิอาจตัดทอนเธอออกจากการปรากฎตัวต่อสาธารณชนก็ตาม
เมื่อถูกผู้สัมภาษณ์รายหนึ่งถามว่าทำไมถึงกล้าแสดงแบบนั้นบนเวที เธอตอบด้วยน้ำตาว่า “ฉันมาจากครอบครัวที่ยากจน หากฉันเลือกได้ ฉันก็จะไม่เลือกชีวิตแบบนี้”
ข้อโต้เถียงลักษณะนี้คล้ายกับที่เคยเกิดขึ้นกับ ไอนุล ดาราติสต้า นักร้องสาวชาวอินโดนีเซีย เมื่อปี 2008 โดยเธอถูกต่อต้านจากท่าเต้นอันยั่วยวนอันก่อความโกรธกริ้วแก่ชาวมุสลิมอนุรักษ์นิยม จนมีเสียงร้องร้องให้แบนการแสดงของเธอและนำมาซึ่งการออกกฎหมายต่อต้านการกระทำที่เข้าข่ายอนาจาร