เอเอฟพี/ASTVผู้จัดการออนไลน์ - เด็กชายชาวฟิลิปปินส์อายุเพียง 13 ปี ก่อเหตุยิงแฟนหนุ่มรุ่นพี่และจ่อยิงศีรษะตัวเอง กลางห้างสรรพสินค้าที่มีลูกค้าจอแจในจังหวัดปัมปังกา ทั้งคู่ตกอยู่ในภาวะสมองตาย ก่อนที่ผู้ก่อเหตุจะเสียชีวิตในเวลาต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจฟิลิปปินส์เปิดเผยวันนี้ (21)
เจค เอ็มเมอร์สัน เปเรซ ผู้เสียชีวิตในวัย 13 ปี สิ้นใจ หลังจากพ่อของเขาอนุญาตให้แพทย์ถอดเครื่องช่วยหายใจ ส่วนโจนาธาน ซัลบัลดอร์ เหยื่อความหึงหวงวัย 16 ปี ยังอยู่ในอาการโคม่าจากภาวะสมองตาย และมีชีวิตอยู่ได้โดยเครื่องช่วยหายใจ
จากจดหมายที่พบในตัวผู้ตาย วิลสัน ซานโตส ผู้บังคับการตำรวจเมืองเม็กซิโก จังหวัดปัมปังกา เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวนเชื่อว่า คดีนี้มีสาเหตุมาจากความหึงหวง และเด็กชายทั้งสองคนถูกยิงเข้าที่ศีรษะด้วยปืน .22 แม็กนั่ม ซึ่งเปเรซแอบนำเข้าไปยังห้างสรรพสินค้าที่มีผู้คนคับคั่ง
“เรามองไปที่ประเด็นรักสามเศร้า คดีหึงหวง” ซานโตสให้สัมภาษณ์กับเอเอฟพี โดยระบุรายละเอียดจากจดหมายว่า เจค เอ็มเมอร์สัน เปเรซ กำลังสงสัยว่า โจนาธาน ซัลบัลดอร์ แอบมีความสัมพันธ์กับหนุ่มวัย 18 ปี อีกคนหนึ่ง ทั้งสองคนกำลังมีปากเสียงกันในห้างสรรพสินค้า ก่อนที่เปเรซจะก่อเหตุสลดดังกล่าว
“เราพบจดหมายในตัวของเด็กอายุ 13 ปี คนนี้ เนื้อความในจดหมายค่อนข้างยาว แต่ประเด็นสำคัญคือเขากำลังโกรธหนุ่มอายุ 18 ปี คนหนึ่ง มีการใช้ถ้อยคำสาปแช่งให้หนุ่มคนนี้ต้องอยู่ตัวคนเดียว ... และเขา ‘ยินดีตายพร้อมกับซัลบัลดอร์’”
หลังเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อคืนวันอังคาร (20) เด็กทั้งสองคนตกอยู่ในภาวะสมองตาย ต่อมา พ่อของเจค เอ็มเมอร์สัน เปเรซ ก็ตัดสินให้แพทย์ถอดเครื่องช่วยหายใจ เพื่อหยุดความเจ็บปวดของลูกชาย ส่วนกรณีของโจนาธาน ซัลบัลดอร์ ดร.อัลเฟรโด ดานัค แพทย์ผู้รับผิดชอบ กล่าวว่า ผู้ปกครองของเหยื่อเคราะห์ร้ายกำลังใคร่ครวญว่า ควรถอดเครื่องช่วยหายใจหรือไม่
คดีนี้เป็นเหตุร้ายจากอาวุธปืนกลางห้างสรรพสินค้าหนที่ 2 ในรอบ 6 วัน ของฟิลิปปินส์ โดยคดีก่อนหน้านี้เกิดขึ้นวันที่ 14 กันยายน เมื่อผู้หญิงคนหนึ่งถูกจับกุมฐานฆาตกรรม หลังจากยิงสามีเสียชีวิตกลางห้างย่านชานเมืองหลวงฟิลิปปินส์ เธอยังยิงเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่พยายามระงับเหตุเสียชีวิตอีก 1 ราย
ทั้งนี้ ประชาชนฟิลิปปินส์จำนวนมากนิยมครอบครองปืนสั้นไว้เป็นอาวุธป้องกันตัวจากอาชญากร โดยไม่หวังพึ่งพาตำรวจที่มีข้อครหาเรื่องการคอร์รัปชันและความไร้ประสิทธิภาพ
ชาวฟิลิปปินส์ที่เป็นผู้ใหญ่และไม่มีประวัติอาชญากรรมสามารถยื่นเรื่องขออนุญาตครอบครองปืน และพกพาไปที่ทำงานได้อย่างเสรี ทางตำรวจเปิดเผยว่า มีปืนเถื่อนอย่างน้อย 500,000 กระบอก อยู่ในมือพลเรือน ซึ่งรวมถึงแก๊งอาชญากรรม และองครักษ์ประจำตัวนักการเมือง