เอเอฟพี/เอเจนซี - รัฐบาลฝรั่งเศสพยายามลดความกังวลต่อการรั่วไหลของสารกัมมันตรังสี หลังเกิดเหตุระเบิดขึ้นที่โรงบำบัดกากนิวเคลียร์แห่งหนึ่งทางภาคใต้ของประเทศเมื่อวันจันทร์(12) อันทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 1 ราย ขณะที่ความคืบหน้าล่าสุดยืนยันเหตุการณ์ทางนิวเคลียร์ยุติลงแล้ว
หน่วยงานควบคุมด้านนิวเคลียร์ของฝรั่งเศสแสดงความกังวลก่อนหน้านี้ว่ามีความเสี่ยงต่อการรั่วไหลของกัมมันตภาพรังสี หลังเกิดระเบิด ณ โรงบำบัดกากนิวเคลียร์เซนทราโก ใกล้เมืองนีมส์ ทั้งนี้โฆษกของกระทรวงพลังงานระบุว่าแม้ว่ามีผู้เสียชีวิต 1 รายและบาดเจ็บอย่างน้อย 4 คน แต่การระเบิดดังกล่าวไม่ก่อเหตุรั่วไหลใดๆ
สำนักงานความปลอดภัยนิวเคลียร์ (เอเอสเอ็น)ของฝรั่งเศส เปิดเผยว่าทาง อีดีเอฟ บริษัทด้านพลังงานยักษ์ใหญ่ของฝรั่งเศส ผู้บริหารโรงบำบัดกากนิวเคลียร์ดังกล่าวยืนยันตัวเลขผู้เสียชีวิตดังกล่าว แต่ให้รายละเอียดเพิ่มเติมว่าในจำนวนผู้ได้รับบาดเจ็บนั้นมีอาการสาหัส 1 ราย พร้อมยืนยันอุบัติเหตุครั้งนี้เป็นเพียงเหตุการณ์ทางอุตสาหกรรม ไม่ใช่เหตุการณ์ทางนิวเคลียร์และเวลานี้สามารถควบคุมเพลิงได้เรียบร้อยแล้ว
ด้านโฆษกของคณะกรรมาธิการพลังงานปรมาณู(ซีอีเอ) บอกว่าเหตุระเบิดเกิดขึ้น ณ โรงบำบัดกากนิวเคลียร์เซนทราโก ซึ่งเป็นของ Socodei บริษัทลูกของอีดีเอฟ "จากรายงานในเบื้องต้นบ่งชี้ว่าเหตุระเบิดเกิดขึ้นในเตาเผาที่ใช้สำหรับหลอมละลายโลหะกากกัมมันตรังสีระดับต่ำถึงต่ำมาก"
หน่วยดับเพลิงระบุว่าได้มีการจัดตั้งแนวป้องกันด้านความปลอดภัยรอบโรงบำบัดดังกล่าว แต่ก็ไม่ได้ให้รายละเอียดใดๆเพิ่มเติม ขณะเดียวกันจนถึงตอนนี้ก็ยังไม่ทราบต้นตอที่แน่ชัด โดยสามารถยืนยันได้เพียงว่ามันเกิดขึ้นภายในเตาหลอม
ทางตำรวจเปิดเผยว่าไม่พบกัมมันตภาพรังสีรอบนอกโรงบำบัด ซึ่งตั้งอยู่ห่างเมืองอาวินยงราว 30 กิโลเมตรและชายฝั่งเมดิเตอร์เรเนียน ราว 80 กิโลเมตร ส่วนทางกระทรวงมหาดไทยบอกว่าไม่มีการอพยพผู้คนโดยรอบโรงบำบัดและไม่จำเป็นต้องกักพนักงานตามหลังเหตุระเบิด "ผู้ได้รับบาดเจ็บเหล่านั้นไม่ได้รับกัมมันตภาพรังสีและพวกเขาได้รับบาดเจ็บเพราะแรงระเบิด"
ทั้งนี้ในเวลาต่อมาทางสำนักงานความปลอดภัยนิวเคลียร์ ยืนยันว่าสถานการณ์เหตุระเบิด ณ โรงบำบัดกากนิวเคลียร์ได้ยุติลงแล้ว "อุบัติเหตุครั้งนี้ไม่ก่อความเสี่ยงด้านกัมมันตภาพรังเซียและไม่จำเป็นต้องป้องกันทางมลพิษ