เอเอฟพี - ศาลฝรั่งเศสจะเริ่มไต่สวนคดีทุจริตของอดีตประธานาธิบดี ฌากส์ ชีรัค เป็นครั้งแรกในวันพรุ่งนี้ (5) โดยคาดว่าชีรัคจะไม่เดินทางไปขึ้นศาลด้วยตนเอง เนื่องจากแพทย์วินิจฉัยว่าสภาพร่างกายไม่พร้อม
ชีรัค วัย 78 ปี ซึ่งเป็นนักการเมืองฝ่ายขวาที่เคยคัดค้านแผนบุกอิรักของสหรัฐฯ เมื่อปี 2003 ถูกกล่าวหาว่ามีส่วนพัวพันกับการทุจริตฉ้อโกงหลายกรณี แต่ไม่เคยพิสูจน์ได้ว่ามีความผิดจริง
อดีตประธานาธิบดีซึ่งพ้นตำแหน่งไปเมื่อปี 2007 และยังคงเป็นที่รักใคร่ของชาวเมืองน้ำหอมผู้นี้ ถูกกล่าวหาว่านำเงินทุนสาธารณะไปเป็นค่าจ้างแก่ผู้ที่ทำงานให้พรรคของเขา ก่อนที่เขาจะได้ชัยชนะในการเลือกตั้งประธานาธิบดี ปี 1995
หากพบว่ามีความผิดจริง ชีรัคอาจมีโทษจำคุกสูงสุด 10 ปี และปรับอีก 150,000 ยูโร (6.4 ล้านบาท) ฐานยักยอกเงินและกระทำผิดหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย ขณะดำรงตำแหน่งนายกเทศมนตรีกรุงปารีส
ชีรัค นับเป็นผู้นำคนแรกของฝรั่งเศสที่ตกเป็นจำเลยในคดีอาชญากรรม ถัดจากจอมพลฟิลิปป์ เปแตง ซึ่งถูกตั้งข้อหากบฏหลังสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่ 2
ชีรัค เคยได้รับความคุ้มครองทางกฎหมายระหว่างที่ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีในปี 1995-2007 ทว่าคดีดังกล่าวกลับมาสร้างความเดือดเนื้อร้อนใจให้อีกครั้ง หลังจากที่รัฐมนตรีต่างประเทศ อแลง จุปเป เพิ่งถูกตัดสินว่ามีความผิดในข้อหาเดียวกัน
อย่างไรก็ดี ดูเหมือนชีรัคจะสามารถหลบเลี่ยงการขึ้นศาลไปได้อีกครั้ง เมื่อทีมทนายของเขายื่นใบรับรองแพทย์แก่ศาลเพื่อยืนยันว่า อดีตประธานาธิบดีมีสุขภาพอ่อนแอ และไม่พร้อมที่จะขึ้นให้การ
“ประธานาธิบดีชีรัคแจ้งให้ศาลทราบถึงความปรารถนาที่จะเห็นกระบวนการไต่สวนดำเนินไปจนลุล่วง และแสดงความเต็มใจที่จะรับผิดชอบ แม้ไม่สามารถเข้าร่วมฟังการพิจารณาได้ก็ตาม” ทนายเผย
เฟรเดริก ซาลัต-บาโร บุตรเขยของ ชีรัค ให้สัมภาษณ์วานนี้(3)ว่า สุขภาพของอดีตประธานาธิบดี “ย่ำแย่ลงตลอดหลายเดือนที่ผ่านมา” และ “ไม่สามารถจดจำรายละเอียดใดๆ” ที่จะนำมาให้การต่อศาลได้
ก่อนหน้านี้อัยการแผ่นดินเคยร้องขอให้ศาลยกฟ้องคดีดังกล่าว จึงมีความเป็นไปได้สูงว่า ชีรัคจะพ้นผิดหากการพิจารณาคดียังดำเนินต่อไป