เอเอฟพี - บริษัทค้าปลีกยักษ์ใหญ่ของอังกฤษ เทสโก้ ประกาศถอนกิจการออกจากญี่ปุ่นในวันนี้ (31) โดยจะขายซูเปอร์มาร์เก็ตทั้งหมด 129 แห่ง เพื่อหันไปลงทุนในตลาดเอเชียอื่นๆ
“วันนี้ เทสโก้ ขอประกาศตัดสินใจขายธุรกิจทั้งหมดในญี่ปุ่น” เทสโก้ ออกถ้อยแถลงอย่างเป็นทางการต่อตลาดหลักทรัพย์ลอนดอน หลังจากที่ได้พิจารณาผลประกอบการในเอเชียแล้ว
บริษัทค้าปลีกซึ่งมียอดขายเป็นอันดับ 3 ของโลกรองจาก วอล-มาร์ท และ คาร์ฟูร์ ระบุด้วยว่า กิจการในญี่ปุ่นถือว่าเติบโตน้อยที่สุดในบรรดากิจการของ เทสโก้ ในต่างประเทศทั้งหมด
“เราพิจารณาผลประกอบการของ เทสโก้ ในทวีปเอเชีย รวมถึงในญี่ปุ่น... ได้ใช้ความพยายามอย่างมากแล้ว จึงสรุปว่าคงไม่สามารถทำผลกำไรในระดับที่เหมาะสมได้” ฟิลิป คลาก ประธานบริหาร เทสโก้ แถลง
“เราตัดสินใจขายกิจการในญี่ปุ่น และจะมุ่งไปยังตลาดที่ใหญ่กว่าในภูมิภาค เพื่อให้สอดคล้องกับนโยบายส่งเสริมการเติบโตทางธุรกิจ และเพิ่มพูนผลตอบแทน”
เคต แคลเวิร์ต นักวิเคราะห์จากบริษัทซื้อขายหลักทรัพย์ ซีย์เมอร์ เพียร์ซ ในกรุงลอนดอน ให้ความเห็นว่า การถอนกิจการของ เทสโก้ ออกจากญี่ปุ่นจะได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุน
“การตัดสินใจทางยุทธศาสตร์ของ ฟิลิป คลาก ที่จะถอนกิจการในญี่ปุ่น น่าจะได้รับการตอบรับที่ดีจากตลาด เพราะ เทสโก้ ไม่เคยได้ผลกำไรเป็นกอบเป็นกำจากที่นั่นเลย” แคลเวิร์ต เขียนในรายงานการวิจัย
“นี่เป็นทางเลือกเดียวกันกับ คาร์ฟูร์ ซึ่งยอมทิ้งกิจการในญี่ปุ่นเพื่อแลกกับกิจการ เทสโก้ ในไต้หวัน เมื่อปี 2005... ญี่ปุ่นจะยังคงได้ชื่อว่าเป็นประเทศที่ทำธุรกิจยากที่สุดแห่งหนึ่ง ดังเช่นที่ วอล-มาร์ท ก็คงรู้สึกได้ตั้งแต่เข้าไปเปิดกิจการที่นั่นในปี 2002 ผ่านทาง เซย์ยู (Seiyu)”
เทสโก้ มีกิจการห้างค้าปลีกกว่า 5,400 สาขาใน 14 ประเทศทั่วโลก เฉพาะในเอเชียมีสาขาในจีน, ญี่ปุ่น, เกาหลีใต้, มาเลเซีย และ ไทย รวมกว่า 1,400 สาขา