เอเอฟพี - รัฐบาลชิลีสั่งปลดนายพลตำรวจ 1 นาย และเจ้าหน้าที่ผู้ต้องสงสัยอีก 5 นาย หลังตำรวจชิลี ยอมรับว่า ได้ยิงปืนในบริเวณที่พบเยาวชนคนหนึ่งถูกยิงเสียชีวิต ระหว่างการประท้วงใหญ่เพื่อเรียกร้องการปฏิรูประบบการศึกษา ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา
การเสียชีวิตของ มานูเอล กูเตียร์เรซ เยาวชนชิลี วัย 16 ปี ยิ่งทำให้ความเคียดแค้นในสังคมทวีความรุนแรงยิ่งขึ้น หลังจากรัฐบาลกรุงซันติอาโกเผชิญกับการประท้วงจากกลุ่มนักเรียน-นักศึกษา และสหภาพแรงงาน ซึ่งนัดผละงานประท้วงใหญ่ทั่วประเทศ 48 ชั่วโมง ตั้งแต่วันพฤหัสบดี (25) ที่ผ่านมา
โรดริโก ฮินซ์เปเตร์ รัฐมนตรีมหาดไทยชิลี แถลงช่วงดึกวานนี้ (29) ว่ารัฐบาลประสงค์ให้ พล.ต.อ.เซร์คิโอ กาคาร์โด ลาออกจากตำแหน่ง หลังถูกกล่าวหาว่าล้มเหลวในการสืบสวนคดี
ก่อนหน้านี้ รัฐบาลเคยปฏิเสธในขั้นต้นว่าตำรวจไม่ได้ยิงใส่ผู้ประท้วง แต่ผู้บังคับการตำรวจนครบาลกรุงซันติอาโกได้ออกมายอมรับเมื่อเช้าวันจันทร์ว่า ตำรวจนายหนึ่ง “ได้ยิงอาวุธปืนอูซี 9 มม.สองครั้งด้วยกัน”
พล.ต.อ.โฮเซ ลูอิส ออร์เตกา เปิดเผยว่า หนึ่งในตำรวจผู้ต้องสงสัย 5 นาย “ยอมรับว่า ได้ยิงปืนจริง แต่ไม่ได้ยิงใส่ประชาชน เป็นการยิงขึ้นฟ้า” หลังจากตำรวจเห็นกลุ่มผู้ประท้วงใช้อาวุธปืนยิงใส่ตำรวจ
ประธานาธิบดี เซบาสเตียน ปิเนรา แห่งชิลี ประกาศจะตรวจสอบหาความจริงเรื่องนี้ให้จงได้ หลังจากมานูเอล กูเตียร์เรซ ถูกยิงเสียชีวิตเมื่อวันพฤหัสบดี (25) ขณะตำรวจปะทะกับกลุ่มผู้ชุมนุมในย่านมากุล (Macul) ชุมชนทางตะวันออกของกรุงซันติอาโก หนึ่งในการประท้วงที่เกิดขึ้นนับร้อยๆ แห่งทั่วประเทศในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา
วันนี้ (30) สภานักศึกษาชิลีได้ตอบรับคำเชิญของประธานาธิบดี ปิเนรา เพื่อเข้าหารือยุติปัญหาการประท้วงของนักศึกษา ซึ่งเรียกร้องการปฏิรูประบบการศึกษาของประเทศ