เอเอฟพี - ราคาน้ำมันลอนดอนขยับลงเมื่อวันจันทร์(22) หลังการล่มสลายของมูอัมมาร์ กัดดาฟี ผู้นำลิเบีย แต่ตลาดนิวยอร์กกลับพุ่งแรง สืบเนื่องจากความหวังต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ ขณะที่ปัจจัยสงครามลิเบียที่กินเวลายาวนานถึง 6 เดือนจะยุติลง ก็ช่วยผลักให้วอลล์สตรีทปิดบวกเล็กน้อย
สัญญาล่วงหน้าน้ำมันดิบชนิดไลต์สวีตครูดของสหรัฐฯ งวดส่งมอบเดือนกันยายน เพิ่มขึ้น 1.86 ดอลลาร์ ปิดที่ 84.12 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกัน ลดลง 26 เซ็นต์ ปิดที่ 108.36 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
“ดูเหมือนตลาดมองในแง่ดีว่าลิเบียจะกลับสู่เสถียรภาพเร็วๆ นี้ และบางทีเราอาจได้เห็นการเพิ่มการผลิตเร็วกว่าที่คาด” ฟิล ฟีน นักวิเคราะห์จากพีเอฟจีเบสต์ รีเสิร์ช กล่าว
ก่อนความไม่สงบปะทุขึ้นเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ลิเบียผลิตน้ำมันดิบได้ราว 1.6 ล้านบาร์เรลต่อวัน ทว่านับตั้งแต่นั้นการผลิตก็ลดน้อยลงเรื่อยๆ กระทบต่ออุปทานน้ำมันดิบโลก และราคาน้ำมันตลาดลอนดอนโดยเฉพาะ เนื่องจากน้ำมันดิบของลิเบียนั้นส่วนใหญ่ส่งออกไปทางยุโรป
ทั้งนี้ ราคาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กเมื่อวันจันทร์ (22) ปิดบวกแรง หลังจากนักลงทุนมีความหวังว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ อาจเปิดตัวมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่โดยมีเป้าหมายก็สนับสนุนเศรษฐกิจอันอ่อนเปลี้ยของประเทศ
ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯ วานนี้(22) อ่อนตัวลงและปิดบวกเล็กน้อยในช่วงท้ายของการซื้อขาย แม้ในช่วงต้นจะคึกคักและพุ่งทะยานอย่างแรง จากข่าวการล่มสลายทางอำนาจของผู้นำลิเบียที่บดบังข้อมูลทางเศรษฐกิจอันเศร้าสร้อยของอเมริกา
ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 37.08 จุด (0.3 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 10,854.73 จุด แนสแดค เพิ่มขึ้น 3.54 จุด (0.2 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 2,345.38 จุด เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 0.27 จุด (0.0 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 1,123.80 จุด
