เดลิเมล์ - ชาวญี่ปุ่นแสดงความซื่อสัตย์ให้ผู้คนได้ประจักษ์ ด้วยการส่งคืนเงินสดที่พบอยู่ใต้ซากปรักหักพังให้แก่เจ้าหน้าที่ตำรวจมูลค่ารวมกันกว่า 50 ล้านปอนด์ (ประมาณ 2,400 ล้านบาท) หลังเกิดเหตุแผ่นดินไหวและคลื่นยักษ์สึนามิซัดทำลายพื้นที่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศย่อยยับ
นานกว่า 5 เดือนตั้งแต่ภัยพิบัติถล่มญี่ปุ่นเมื่อวันที่ 11 มีนาคม ผู้ประสบภัยได้ส่งคืนกระเป๋าเงินที่พบอยู่ใต้ซากปรักหักพัง ซึ่งรวมกันทั้งหมดเป็นเงินสดมูลค่าเกือบ 30 ล้านปอนด์ (ประมาณ 1,500 ล้านบาท) ส่วนกลุ่มอาสาสมัครและเจ้าหน้าที่กู้ภัยก็ได้นำส่งตู้เซฟที่พบอยู่ตามชายฝั่งมากกว่า 5,700 ใบให้กับสถานีตำรวจท้องที่
ทางการพบเงินสดอีกจำนวน 20 ล้านปอนด์ (ประมาณ 1,000 ล้านบาท) ภายในตู้เซฟเหล่านี้ โดยมีตู้เซฟใบหนึ่งที่บรรจุเงินไว้ภายในถึง 600,000 ปอนด์ (ประมาณ 30 ล้านบาท) และมีอีกหลายใบที่บรรจุทองแท่ง วัตถุโบราณ และสิ่งของล้ำค่า
สำนักงานตำรวจแห่งชาติญี่ปุ่นแถลงว่า เงินเกือบทั้งหมดที่พบในพื้นที่วิกฤตภัยพิบัติได้นำคืนเจ้าของเรียบร้อยแล้ว
ทั้งนี้ ชาวญี่ปุ่นจำนวนมากเก็บสมุดบัญชีธนาคารและโฉนดที่ดิน ซึ่งระบุชื่อและที่อยู่ ไว้ภายในตู้เซฟ และมีประชาชนอีกส่วนหนึ่งต้องนำตู้เซฟฝากไว้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพราะไม่มีพื้นที่เพียงพอสำหรับเก็บตู้เซฟ
โคเอสึ ซาอิกิ นายตำรวจในจังหวัดมิยางิ กล่าวว่า มีตู้เซฟถูกนำส่งสถานีตำรวจทุกสัปดาห์ “ตู้เซฟถูกคลื่นซัดมา แสดงว่าบ้านก็คงพังลงแล้ว แต่เราต้องคิดไว้ก่อนว่าเจ้าของยังมีชีวิตอยู่ และออกตามหาในสถานที่อพยพ”
ริวจิ อิโตะ อาจารย์จากมหาวิทยาลัยโยโกฮามา กล่าวถึงการนำตู้เซฟส่งสถานีตำรวจว่า “การคืนเงินจำนวนมหาศาลถึง 2,300 ล้านเยน (ประมาณ 900 ล้านบาท) ให้กับเจ้าของ แสดงให้เห็นถึงมนุษยธรรมของคนญี่ปุ่น”
