เอเอฟพี - ส.ส.รีพับลิกันรายหนึ่งออกมาตำหนิรัฐบาลประธานาธิบดีบารัค โอบามา ว่ากำลังก่อภัยต่อความมั่นคงของชาติ หลังไปร่วมมือกับฮอลลีวูดเพื่อสร้างภาพยนตร์เกี่ยวกับการลอบสังหาร อุซามะห์ บิน ลาดิน
ปีเตอร์ คิง ส.ส.รีพับลิกัน ซึ่งดำรงตำแหน่งประธานคณะกรรมาธิการความมั่นคงภายในแห่งสภาผู้แทนราษฎร เรียกร้องให้มีการสอบสวนหลังทราบว่า กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ จะร่วมมือกับผู้กำกับหญิงรางวัลออสการ์ เคธรีน บิเกโลว์ เพื่อสร้างภาพยนตร์ที่จำลองเหตุการณ์ขณะหน่วยซีลส์บุกเข้าสังหารผู้นำอัลกออิดะห์ถึงบ้านพักในปากีสถาน
“ผมเขียนจดหมายฉบับนี้ขึ้นเพื่อแสดงความเป็นห่วงว่า ข้อมูลลับเกี่ยวกับปฏิบัติการทางทหารของเรากำลังรั่วไหลออกไป” คิง ระบุในจดหมายที่ส่งถึงผู้ตรวจการประจำกระทรวงกลาโหมและสำนักงานข่าวกรองกลาง (ซีไอเอ)
การให้ความร่วมมือเพื่อสร้างภาพยนตร์ดังกล่าว “จะทำให้ข้อมูลลับเผยแพร่ออกไปอย่างแน่นอน และทำลายชื่อเสียงด้านความเป็นมืออาชีพของกระทรวงกลาโหมและซีไอเอ”
กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ยืนยันว่า มีการเจรจาในเบื้องต้นกับบิเกโลว์ และผู้เขียนบท มาร์ก โบล เกี่ยวกับการทำภาพยนตร์ว่าด้วยการเสียชีวิตของบิน ลาดิน จริง
“เป็นธรรมเนียมอยู่แล้วที่จะต้องบอกข้อมูลทางเทคนิค และรายละเอียดสำหรับนำไปวิจัยก่อนเขียนบท แก่ผู้สร้างภาพยนตร์” ฟิล สตรับ ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อบันเทิงที่กำกับดูแลความร่วมมือระหว่างเพนตากอนกับบริษัทผู้สร้างภาพยนตร์กล่าว
ด้านทำเนียบขาวออกก็มาตอบโต้คำวิจารณ์ของคิง ว่า “น่าขำ” เพราะเจ้าหน้าที่จะต้องพูดคุยกับผู้สร้างภาพยนตร์เป็นประจำอยู่แล้ว เพื่อให้รายละเอียดของภาพยนตร์ออกมาถูกต้องแม่นยำ แต่ยืนยันว่าไม่มีข้อมูลลับเฉพาะถูกเปิดเผยออกไป
“เราไม่ได้พูดถึงข้อมูลที่เป็นความลับทางราชการ และหวังว่าในขณะที่เรายังเผชิญภัยก่อการร้ายอย่างต่อเนื่อง คณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งสภาฯ จะหาหัวข้อที่น่าอภิปรายกัน มากกว่าเรื่องภาพยนตร์” เจย์ คาร์นีย์ โฆษกทำเนียบขาว กล่าวต่อสื่อมวลชน
กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ เคยอนุญาตให้ผู้ผลิตภาพยนตร์หลายราย รวมถึงทีมสร้าง “ทรานสฟอร์เมอร์ส” ให้เข้าไปใช้ฐานทัพ, เรือรบ และอากาศยานของทหารได้ หลังตรวจสอบและรับรองแล้วว่า บทภาพยนตร์ถ่ายทอดภาพลักษณ์ของทหารออกมาอย่างเหมาะสม
อย่างไรก็ตาม คิงอ้างคำวิจารณ์ของ โมรีน โดว์ด คอลัมนิสต์ของหนังสือพิมพ์ นิวยอร์ก ไทม์ส ซึ่งระบุว่า ทำเนียบขาวกำลังใช้ภาพยนตร์เรื่องนี้เพื่อเสริมบารมีแก่ โอบามา และสยบข้อครหาเกี่ยวกับความไร้ประสิทธิภาพของประธานาธิบดีที่เริ่มหนาหูขึ้นเรื่อยๆ
“ผู้สร้างภาพยนตร์จะได้เข้าถึงข้อมูลลับทางทหารชิ้นสำคัญที่สุดในประวัติศาสตร์” โดว์ด เขียนในคอลัมน์สุดสัปดาห์ของเธอ พร้อมเผยว่า ภาพยนตร์ดังกล่าวมีกำหนดเปิดตัวช่วงเดือนตุลาคม ปี 2012 ก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดีจะมีขึ้นในเดือนพฤศจิกายน “ซึ่งเป็นเวลาเหมาะสมที่สุดที่จะเรียกคะแนนนิยมจากประชาชน ในการหาเสียงซึ่งยากลำบากขึ้นเรื่อยๆ”