เอเอฟพี - สตรีอิหร่านผู้ถูกสาดน้ำกรดจนเสียโฉมและตาบอดทั้งสองข้างตัดสินใจให้อภัยแก่ชายผู้ทำร้ายเธอ วันนี้ (31) ส่งผลให้จำเลยรอดพ้นการถูกลงโทษให้ตาบอดตามหลักกฎหมายตาต่อตา ฟันต่อฟัน ในนาทีสุดท้าย เว็บไซต์สถานีโทรทัศน์แห่งชาติอิหร่านรายงาน
“ด้วยคำร้องของอาเมเนห์ บาห์รามี เหยื่อคดีสาดน้ำกรด มาจิด (มูวาฮีดี) ผู้ถูกตัดสินลงโทษด้วยการแก้แค้น ได้รับการให้อภัยในนาทีสุดท้าย” เนื่องจากบาห์รามีตัดสินใจสละสิทธิ์ในการแก้แค้น สื่ออิหร่านรายงาน
เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2009 มาจิด มูวาฮีดี ถูกศาลพิพากษาลงโทษให้ตาบอดทั้งสองข้าง ตามความผิดที่เขาสาดน้ำกรดใส่หน้าอาเมเนห์ บาห์รามี เพื่อนร่วมชั้นเรียนมหาวิทยาลัยเตหะราน เหตุเพราะเธอปฏิเสธคำขอแต่งงานของเขา
ตามกำหนดเดิม การลงโทษให้มาจิด มูวาฮีดี ตาบอดตามคำสั่งศาลจะมีขึ้นในช่วงกลางเดือนพฤษภาคม แต่ก็ถูกเลื่อนออกมาโดยไม่มีการเปิดเผยสาเหตุอย่างเป็นทางการ
อาเมเนห์ บาห์รามี ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวอิสนา (ISNA) ของอิหร่านว่า เธอให้อภัย โดยให้เหตุผลว่า พระคัมภีร์อัลกุรอานบัญญัติไว้ว่า “การให้อภัยยิ่งใหญ่กว่าการแก้แค้น”
“ดิฉันต่อสู้เพื่อให้มีการลงโทษคนที่สาดน้ำกรด ด้วยวิธีการแก้แค้นมานานถึง 7 ปี แต่มาวันนี้ดิฉันให้อภัยเขาตามสิทธิ์ที่มี” อาเมเนห์ บาห์รามี กล่าว “ดิฉันทำเพื่อประเทศของเรา เพราะตอนนี้นานาประเทศกำลังจับจ้องเราอยู่”
อับบาส จาฟารี โดลาตอบาดี อัยการสูงสุดอิหร่าน ชื่นชมการตัดสินใจของบาห์รามี และกล่าวไว้ว่า “ตามกำหนด วันนี้ มาจิด มูวาฮีดี จะต้องถูกลงโทษทำให้ตาบอดโดยมีจักษุแพทย์และตัวแทนจากศาลเป็นพยาน ทว่า อาเมเนห์ ก็ตัดสินใจให้อภัยเขา … อย่างไรก็ตาม เธอต้องการเงินชดเชย”
หนังสือพิมพ์อาร์มัน (Arman) รายงานเมื่อกลางเดือนพฤษภาคมว่า อาเมเนห์ บาห์รามี ได้เรียกร้องค่าเสียหายจำนวน 2 ล้านยูโร (ประมาณ 85 ล้านบาท) แลกกับการที่เธอยอมยกเลิกโทษแก้แค้น
ทั้งนี้ อาเมเนห์ บาห์รามี ถูกมาจิด มูวาฮีดี สาดน้ำกรดใส่หน้าเมื่อปี 2004 ขณะนั้นเธออายุ 24 ปี บาห์รามีต้องเข้ารับการผ่าตัดศัลยกรรมถึง 17 ครั้งในสเปนอยู่นานหลายปี แต่ตาของเธอยังคงสูญเสียการมองเห็นทั้ง 2 ข้าง และมีบาดแผลสาหัสตามใบหน้าและลำตัว