เอเอฟพี - เอกสารความยาว 1,500 หน้าซึ่งเขียนโดยชายผู้ต้องสงสัยกราดยิงและวางระเบิดเมืองหลวงของนอร์เวย์บ่งชี้ว่า เขาวางแผนก่อวินาศกรรมมาตั้งแต่ฤดูใบไม้ร่วงปี 2009
เอกสารออนไลน์ฉบับนี้เป็นทั้งไดอารี, คู่มือทำระเบิด และบทความการเมือง ซึ่ง แอนเดอร์ส เบห์ริง บรีวิก สาธยายความเกลียดชังที่ตนมีต่อศาสนาอิสลาม, ลัทธิมาร์กซิสม์ และความปรารถที่จะเป็นอัศวินเทมพลาร์ (Knight Templar)
เอกสารชุดหนึ่งที่ใช้ชื่อว่า “ฤดูใบไม้ร่วง 2009 – ขั้นตอนการเปลี่ยนแปลง” เล่าถึงการที่เขาเปิดธุรกิจทำเหมืองและฟาร์มบังหน้า เพื่อเตรียมก่อเหตุโจมตีในครั้งนี้
“เหตุผลที่ตัดสินใจเช่นนี้ก็เพื่อสร้างฉากบังหน้าที่น่าเชื่อถือ ในกรณีที่ผมถูกจับฐานซื้อและลักลอบนำเข้าระเบิดหรือสารที่ใช้ทำระเบิด เช่น ปุ๋ย” เอกสารระบุ
เหตุกราดยิงที่ค่ายเยาวชนพรรคเลเบอร์บนเกาะอูโตยา ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 85 คน และก่อนหน้านั้นยังมีผู้เสียชีวิตอีก 7คนจากเหตุคาร์บอมบ์ถล่มอาคารสถานที่ราชการหลายแห่งในกรุงออสโล เมื่อวันศุกร์(22)
“ผมจะถูกตราหน้าว่าเป็นเดรัจฉานที่เลวร้ายที่สุดเท่าที่เคยมีมาหลังสงครามโลกครั้งที่ 2” ชายผู้เขียนเอกสารระบุ โดยบอกว่าแผนการที่เขาวางไว้เป็น “ปฏิบัติการอันทุกข์ทรมานเพื่อความเชื่อ” (Matyrdom Operation)
แม้จะใช้นามแฝงว่า แอนดรูว์ เบอร์วิก ทว่าผู้เขียนก็ยังอธิบายที่มาของชื่อ แอนเดอร์ส เบห์ริง บรีวิก ซึ่งเป็นชื่อจริงของเขาไว้ด้วย
“ชื่อ บรีวิก มีมาตั้งแต่ก่อนยุคไวกิ้ง เบห์ริง มาจากคำว่า เบห์ร ซึ่งเป็นชื่อภาษาเยอรมนิกที่ใช้กันตั้งแต่ก่อนคริสตกาล ส่วน แอนเดอร์ส (แอนเดรียส) เป็นภาษาสแกนดิเนเวียน เทียบได้กับ แอนดรูว์”
เอกสารชุดนี้ยังกล่าวถึงเพื่อนฝูงของ บรีวิก, พฤติกรรมของพวกเขา, สาวๆที่เคยคบหา, กิจกรรมทางเพศ ตลอดจนเรื่องราวทั่วไปในชีวิตประจำวัน หรือแม้แต่เรื่องที่ บรีวิก ไปดื่มไวน์ราคาแพงก่อนจะลงมือก่อเหตุสะเทือนขวัญในนอร์เวย์ ก็มีบันทึกไว้เช่นกัน
ข้อความในวันเกิดเหตุระบุว่า “นี่คงเป็นบันทึกสุดท้ายที่จะเขียน วันนี้วันที่ 22 กรกฎาคม เวลา 12.51 น. ขอแสดงความนับถือ แอนดรูว์ เบอร์วิก, ผู้บัญชาการอัศวินตุลาการ, อัศวินเทมพลาร์ยุโรป, อัศวินเทมพลาร์นอร์เวย์”
ทนายของ บรีวิก ให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์ของนอร์เวย์วานนี้(23)ว่า บรีวิก ยอมรับสารภาพว่าเป็นผู้ก่อเหตุ
“เขาทราบดีว่ามันโหดร้ายมาก แต่บอกว่าจำเป็นต้องทำ” เกร์ ลิปเปสตัด ทนายของ บรีวิก กล่าว พร้อมระบุว่าลูกความของเขาวางแผนก่อวินาศกรรมครั้งนี้มานานแล้ว