เอเอฟพี - ผลสำรวจความเห็นที่เผยแพร่ในวันพุธ (13) ที่ผ่านมา ระบุ ความนิยมในตัวประธานาธิบดี บารัค โอบามา แห่งสหรัฐฯ ในหมู่ชาวอาหรับตกลงอย่างมาก 2 ปีหลังจากเขากล่าวสุนทรพจน์ครั้งประวัติศาสตร์จากกรุงไคโร ที่จะเริ่มต้นความสัมพันธ์ใหม่กับโลกมุสลิม
โพลของสถาบันอาหรับอเมริกัน พบว่า คนส่วนใหญ่จากการสำรวจกว่า 4,000 คนในอียิปต์ จอร์แดน เลบานอน โมร็อกโก ซาอุดีอาระเบีย และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ รู้สึกว่าโอบามาไม่สามารถทำตามความคาดหวัง ที่เขาเคยให้ไว้ในสุนทรพจน์ที่กรุงไคโร เมื่อเดือนมิถุนายน ปี 2009
ในสุนทรพจน์ครั้งนั้น โอบามา เรียกร้องให้ยุติวงจรความระแวงสงสัย และความบาดหมางระหว่างสหรัฐฯ กับโลกมุสลิม โดยยังได้ร่างแผนความสัมพันธ์ใหม่ระหว่างสหรัฐฯ กับตะวันออกกลาง ซึ่งรวมรัฐปาเลสไตน์ และความพยายามยุติโครงการนิวเคลียร์ของอิหร่าน
อย่างไรก็ตาม ชาวอาหรับยังคงมองว่านโยบายตะวันออกกลางของรัฐบาลโอบามาไม่สามารถพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาให้ดีขึ้นได้ โดยเฉพาะประเด็นปาเลสไตน์ และการต่อสู้กับโลกมุสลิม ซึ่งวอชิงตันใช้ความทุ่มเทอย่างมาก แต่กลับได้รับความเห็นชอบน้อยที่สุด เพียง 9%
โพลยังพบว่า ภาพลักษณ์โดยรวมของสหรัฐฯ ในสายตาของชาวอาหรับขณะนี้แย่กว่าเมื่อช่วงปีสุดท้ายของรัฐบาลอดีตประธานาธิบดี จอร์จ ดับเบิลยู บุช ซึ่งนำกองกำลังนานาชาติเข้ารุกรานอิรัก เสียอีก
สำหรับการสังหาร อุซามะห์ บิน ลาดิน โดยหน่วยรบพิเศษซีลส์ แทบไม่ช่วยให้มุมมองของชาวอาหรับต่อสหรัฐฯ นั้นดีขึ้น และชาวอาหรับส่วนใหญ่ใน 6 ประเทศ ที่ทำการสำรวจนั้น ระบุว่า พวกเขาชื่นชมสหรัฐฯ น้อยลงหลังการสังหารแกนนำอัลกออิดะห์ในปากีสถาน
จากผลการสำรวจ ซาอุดีอาระเบียเป็นประเทศ ที่สหรัฐฯ ได้รับคะแนนนิยมมากที่สุด โดยมีชาวซาอุดีฯ 30% ที่มองสหรัฐฯ ในด้านดี ขณะที่ประเทศซึ่งได้รับความชื่นชมต่ำที่สุด คือ อียิปต์ ซึ่งพบว่ามีเพียง 5% เท่านั้น
สำหรับการพัฒนาความสัมพันธ์กับโลกอาหรับให้ดีขึ้นนั้น ประชาชนส่วนใหญ่ในอียิปต์ จอร์แดน และโมร็อกโกระบุว่า สหรัฐฯ ควรแก้ปัญหาปาเลสไตน์ ขณะที่ชาวซาอุดีฯ ให้ความสำคัญกับการระงับโครงการนิวเคลียร์อิหร่านมากกว่า
ทั้งนี้ การสำรวจความเห็นดังกล่าวทำขึ้นหลังจากผู้นำสหรัฐฯ กล่าวสุนทรพจน์เมื่อวันที่ 19 พฤษภาคมที่ผ่านมา ว่า ให้การสนับสนุนขบวนการเรียกร้องประชาธิปไตยในโลกอาหรับ