xs
xsm
sm
md
lg

EU เตรียมลงโทษผู้นำ “ซีเรีย” เหตุสลายการชุมนุมนองเลือด

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาด แห่งซีเรีย
เอเอฟพี - สหภาพยุโรปเตรียมยกระดับการกดดันซีเรีย กรณีการสลายผู้ชุมนุมด้วยความรุนแรง และอิหร่าน กรณีโครงการนิวเคลียร์ วันนี้ (23) ขณะชาติสมาชิกอียูอภิปรายถึงการใช้มาตรการทางการทูตขั้นต่อไป เพื่อสนับสนุนให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในภูมิภาคแอฟริกาเหนือและตะวันออกกลาง

ยอดผู้เสียชีวิตจากการประท้วงในซีเรียยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง หลังการชุมนุมร้องหาการปฏิวัติการเมืองผ่านมานาน 2 เดือน การประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอียูรอบนี้จะเป็นครั้งแรกที่สหภาพยุโรปใส่ชื่อประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาด แห่งซีเรีย ลงในรายนามเจ้าหน้าที่รัฐบาลซีเรียที่ถูกสั่งห้ามเดินทาง และอายัดทรัพย์ ฐานเกี่ยวข้องกับการสลายการชุมนุมด้วยความรุนแรง อันนำมาซึ่งเหตุนองเลือด

“จุดประสงค์ของมาตรการลงโทษดังกล่าว คือ หยุดยั้งความรุนแรง และกดดันให้อัสซาดยอมรับกระบวนการปฏิรูปการเมือง แต่นั่นไม่ใช่การบังคับให้เขาลงจากตำแหน่ง” นักการทูตของอียูรายหนึ่งกล่าวถึงมาตรการลงโทษใหม่

ก่อนหน้านี้ สหภาพยุโรปได้ประกาศมาตรการคว่ำบาตรด้านอาวุธต่อซีเรีย รวมทั้งระงับวีซา และอายัดทรัพย์บุคคลผู้ใกล้ชิดประธานาธิบดีซีเรีย แต่ยังไม่เคยลงโทษบาชาร์ อัล-อัสซาดโดยตรง

นอกจากนี้ กลุ่มอียูยังรู้สึกไม่พอใจทางการอิหร่าน กรณีการเจรจาเรื่องโครงการนิวเคลียร์ที่ไร้ความคืบหน้า โดยรัฐมนตรีอียูจะตกลงเพิ่มบทลงโทษต่อกรุงเตหะราน ทั้งนี้ อียูประกาศว่า บริษัทสัญชาติอิหร่านมากกว่า 100 แห่งที่ต้องสงสัยว่าคอยช่วยเหลือทางการอิหร่านจะเป็นเป้าหมายในการประชุมรอบนี้ หนึ่งในบริษัทที่อยู่ในข่ายบัญชีดำของอียู คือ ธนาคารยูโรเปียน-อิราเนียน เทรด แบงก์ (อีไอเอช) ธนาคารในเยอรมนีที่ชาวอิหร่านเป็นเจ้าของ ซึ่งอียูเชื่อว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับโครงการนิวเคลียร์

ส่วนประเด็นเรื่องลิเบีย อียูกำลังหาวิธีโน้มน้าวให้กลุ่มกบฏและมูอัมมาร์ กัดดาฟีลงนามในข้อตกลงหยุดยิง รวมทั้งการสั่งให้กองกำลังของรัฐบาลลิเบียล่าถอยออกจากเขตสู้รบ เพื่อเปิดทางให้กับกระบวนการเจรจา

ทั้งนี้ เครื่องบินรบของนาโตกระหน่ำโจมตีกองกำลังรัฐบาลลิเบียมานานกว่า 2 เดือน โดยกองทัพพันธมิตรชาติตะวันตกให้คำมั่นว่าจะกดดันลิเบียต่อไป จนกระทั่งกัดดาฟีหยุดทำร้ายประชาชนและเรียกกำลังทหารกลับเข้ากรมกอง

ยิ่งไปกว่านั้น คาดกันว่าอาจมีคำแถลงสำคัญ หลังจากสุนทรพจน์ของบารัค โอบามา ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ซึ่งเห็นว่าการก่อตั้งรัฐปาเลสไตน์ควรยึดตามเส้นเขตแดนก่อนสงครามอาหรับ-อิสราเอล 1967 รวมถึงข้อตกลงเอกภาพระหว่างประธานาธิบดีมาห์มูด อับบาส แห่งปาเลสไตน์ในเขตเวสต์แบงก์ กับกลุ่มฮามาส พรรคคู่แค้นในฉนวนกาซา

สหภาพยุโรปยังเตรียมอภิปรายถึงการช่วยเหลือรัฐบาลประชาธิปไตยในอียิปต์และตูนิเซีย ขณะเดียวกันก็เตรียมหาทางหนีทีไล่ไว้สำหรับความวุ่นวายในส่วนอื่นๆ ของโลกอาหรับ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในบาห์เรน และเยเมน
กำลังโหลดความคิดเห็น